Agile Organization ไม่ใช่แค่กระแส แต่จำเป็นต้องทำ เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในทุกวิกฤต
วิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาในรอบ 1 ปีครึ่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างมากมาย ซึ่งการทำ Digital Transformation ยังคงสำคัญกับทุกธุรกิจ โดยเฉพาะการสร้างองค์กรให้สามารถปรับตัวกับวิกฤตต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว (Agile Organization)
SHiFT Your Future ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทที่ปรึกษาด้านการทำ Digital Transformation ถึงการปรับตัวขององค์กรต่างๆ เพื่อให้อยู่รอดในวิกฤตได้
พชร เปิดประเด็นให้สัมภาษณ์ว่าคนทำงานไม่ว่าจะเป็นฝั่งของค้าปลีก อุตสาหกรรมบริการ ถูกผลกระทบอย่างมาก สิ่งที่ทำให้มีรายได้กลับเข้ามาถูกเปลี่ยนเป็นช่องทางดิจิทัล เช่น การสั่งเดลิเวอรี หรือสั่งผ่านอีคอมเมิร์ซ ใครที่ไม่ได้อยู่ในช่องทางออนไลน์ก็จะได้รับผลกระทบกับรายได้
ด้านคนปฏิบัติงาน ก็สามารถใช้โปรแกรมต่างๆ เช่น ประชุมออนไลน์ เป็นกันหมด หลายบริษัทสามารถใช้ Virtual Private Network (VPN) เข้ามาที่ระบบต่างๆ ภายในบริษัทได้ หรือแม้กระทั่ง Collaboration Tool เช่น Google Drive หรือ Microsoft OneDrive ก็สามารถใช้แก้ไขไฟล์ที่อยู่บน Cloud ในไฟล์เดียวกันได้โดยไม่จำเป็นต้องมานั่งทำงานด้วยกัน
ด้านการเงิน หลายบริษัทเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันคือ เงินทุนที่เหลืออยู่ค่อนข้างฝืด ต้องใช้เงินอย่างประหยัดมากขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ธุรกิจมีสายป่านที่ยาวมากขึ้น เช่น การใช้โปรแกรมเข้ามาตอบลูกค้าแทนการจ้างคน ซึ่งจะทำให้ใช้คนจำนวนน้อยลง แต่สามารถตอบข้อความลูกค้าได้ง่ายขึ้น
“ทั้งสามเรื่องนี้ ธุรกิจอย่างน้อยก็จะต้องเจออย่างใดอย่างหนึ่ง และถึงแม้จะไม่เจอ ก็พบว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้นั้นเป็นเรื่องจำเป็น ทำให้เราไปต่อได้ในยุคนี้”
SHiFT Your Future ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทที่ปรึกษาด้านการทำ Digital Transformation ถึงการปรับตัวขององค์กรต่างๆ เพื่อให้อยู่รอดในวิกฤตได้
พชร เปิดประเด็นให้สัมภาษณ์ว่าคนทำงานไม่ว่าจะเป็นฝั่งของค้าปลีก อุตสาหกรรมบริการ ถูกผลกระทบอย่างมาก สิ่งที่ทำให้มีรายได้กลับเข้ามาถูกเปลี่ยนเป็นช่องทางดิจิทัล เช่น การสั่งเดลิเวอรี หรือสั่งผ่านอีคอมเมิร์ซ ใครที่ไม่ได้อยู่ในช่องทางออนไลน์ก็จะได้รับผลกระทบกับรายได้
ด้านคนปฏิบัติงาน ก็สามารถใช้โปรแกรมต่างๆ เช่น ประชุมออนไลน์ เป็นกันหมด หลายบริษัทสามารถใช้ Virtual Private Network (VPN) เข้ามาที่ระบบต่างๆ ภายในบริษัทได้ หรือแม้กระทั่ง Collaboration Tool เช่น Google Drive หรือ Microsoft OneDrive ก็สามารถใช้แก้ไขไฟล์ที่อยู่บน Cloud ในไฟล์เดียวกันได้โดยไม่จำเป็นต้องมานั่งทำงานด้วยกัน
ด้านการเงิน หลายบริษัทเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันคือ เงินทุนที่เหลืออยู่ค่อนข้างฝืด ต้องใช้เงินอย่างประหยัดมากขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ธุรกิจมีสายป่านที่ยาวมากขึ้น เช่น การใช้โปรแกรมเข้ามาตอบลูกค้าแทนการจ้างคน ซึ่งจะทำให้ใช้คนจำนวนน้อยลง แต่สามารถตอบข้อความลูกค้าได้ง่ายขึ้น
“ทั้งสามเรื่องนี้ ธุรกิจอย่างน้อยก็จะต้องเจออย่างใดอย่างหนึ่ง และถึงแม้จะไม่เจอ ก็พบว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้นั้นเป็นเรื่องจำเป็น ทำให้เราไปต่อได้ในยุคนี้”
“การเงิน” เรื่องเร่งด่วน แต่สุดท้ายต้องทำให้ครบองค์ประกอบ
ปัจจุบันทุกบริษัททำ Digital Transformation กันหมดแล้ว แต่สเกลของแต่ละบริษัทนั้นไม่เท่ากัน เช่น SMEs แค่ลดการใช้กระดาษ นำเอกสารมาอยู่ในระบบมากขึ้น ใช้ช่องทางออนไลน์ติดต่อทุกอย่าง เก็บข้อมูลอยู่ในระบบดิจิทัลที่บริหารจัดการและเรียกดูเมื่อไรก็ได้ ก็ถือว่าเป็นการทำ Transformation แล้ว ขณะที่บริษัทใหญ่อาจจะเปลี่ยนระบบภายในทั้งหมด สามารถปรับแต่งได้ตามใจ ที่มีความคล่องตัวและสามารถขยายเพิ่มเติมเท่าไรก็ได้ทั้งนี้ทุกบริษัทไม่จำเป็นต้องทำเหมือนกันเพราะแต่ละบริษัทก็มีทางของตัวเอง
พชร มองว่า การแก้ปัญหาการเงิน ลูกค้า และพนักงาน มีความเกี่ยวข้องกันหมด แต่ถ้าในระยะสั้น คนจะให้ความสำคัญไปที่เรื่องการเงินเป็นหลัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากๆ จะเห็นว่าเมื่อเกิดปัญหาธุรกิจ เช่น ถูกล็อกดาวน์ ร้านอาหารก็จะได้รับผลกระทบ ถ้าไม่มีช่องทางการขายออนไลน์เลยก็จะอยู่ไม่ได้ ซึ่งการเงินนั้นมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะทุกคนต้องคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้อยู่รอด
“เมื่อแก้ปัญหาการเงินได้แล้ว แต่ถ้าเราไม่แก้ปัญหาลูกค้า หรือไม่แก้ปัญหาพนักงานเลย สุดท้ายธุรกิจก็จะไปต่อไม่ได้”
ปัจจุบันทุกบริษัททำ Digital Transformation กันหมดแล้ว แต่สเกลของแต่ละบริษัทนั้นไม่เท่ากัน เช่น SMEs แค่ลดการใช้กระดาษ นำเอกสารมาอยู่ในระบบมากขึ้น ใช้ช่องทางออนไลน์ติดต่อทุกอย่าง เก็บข้อมูลอยู่ในระบบดิจิทัลที่บริหารจัดการและเรียกดูเมื่อไรก็ได้ ก็ถือว่าเป็นการทำ Transformation แล้ว ขณะที่บริษัทใหญ่อาจจะเปลี่ยนระบบภายในทั้งหมด สามารถปรับแต่งได้ตามใจ ที่มีความคล่องตัวและสามารถขยายเพิ่มเติมเท่าไรก็ได้ทั้งนี้ทุกบริษัทไม่จำเป็นต้องทำเหมือนกันเพราะแต่ละบริษัทก็มีทางของตัวเอง
พชร มองว่า การแก้ปัญหาการเงิน ลูกค้า และพนักงาน มีความเกี่ยวข้องกันหมด แต่ถ้าในระยะสั้น คนจะให้ความสำคัญไปที่เรื่องการเงินเป็นหลัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากๆ จะเห็นว่าเมื่อเกิดปัญหาธุรกิจ เช่น ถูกล็อกดาวน์ ร้านอาหารก็จะได้รับผลกระทบ ถ้าไม่มีช่องทางการขายออนไลน์เลยก็จะอยู่ไม่ได้ ซึ่งการเงินนั้นมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะทุกคนต้องคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้อยู่รอด
“เมื่อแก้ปัญหาการเงินได้แล้ว แต่ถ้าเราไม่แก้ปัญหาลูกค้า หรือไม่แก้ปัญหาพนักงานเลย สุดท้ายธุรกิจก็จะไปต่อไม่ได้”
Agile Organization ไม่ใช่กระแส แต่ต้องทำในระยะยาว
พชร กล่าวว่า เทคโนโลยีเป็นเรื่องที่มาแล้วไป มีอะไรใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้กับธุรกิจได้เพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้ง AI, Blockchain และ Robotic Process Automation (RPA) เป็น 3 เรื่องที่วงการธุรกิจนำมาใช้กันมาก
-AI ถูกนำมาใช้ในธุรกิจในทุกๆ เรื่อง เข้ามาทำงานแทนคนในเรื่องการตัดสินใจ เพราะถ้าตัดสินใจได้ดีกว่าคู่แข่ง โอกาสที่จะชนะในการทำธุรกิจก็มีสูงกว่า
-Blockchain เข้ามาดิสรัปต์ในหลายเรื่อง เช่น การทำธุรกรรมทางการเงินโดยตัดตัวกลางออก เรียกว่า Decentralized Finance ทำให้ค่าใช้จ่ายในการจัดการต่างๆ ลดลง ธุรกิจสามารถตอบสนองลูกค้าได้ดีขึ้น หรือการนำมาใช้ระดมทุน โดยการทำ Tokenization
-RPA เป็นการเขียนซอฟต์แวร์ขึ้นมาทำงานบางอย่างแทนมนุษย์ ช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น ทำงานจำนวนมากได้รวดเร็วมากขึ้น
“แต่สิ่งที่องค์กรควร Transform ไปนั้น คือ การสร้างขีดความสามารถขององค์กร เป็น Agile Organization คือ องค์กรที่สามารถเรียนรู้ได้เร็ว ปรับตัวได้เร็ว”
สถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจไหนที่มีความสามารถในการปรับตัวเร็ว เช่น สามารถย้ายจากพนักงานหน้าร้านมาเป็นพนักงานตอบแชทได้ภายในชั่วข้ามคืน สามารถให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ หรือเปลี่ยนจากเซลล์ที่ทำงานออฟไลน์มาเป็นออนไลน์ได้ การปรับตัวได้เร็วก็จะได้เปรียบ และทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้
อีกส่วนหนึ่ง คือ ธุรกิจกำลังเจอกับความไม่แน่นอน เช่น ไม่รู้ว่าธุรกิจจะเปิดหรือปิดหน้าร้านวันไหน การที่ยุบหรือขยายทุกอย่างได้เร็ว จับเทรนด์ใหม่ๆ ได้เร็ว ก็จะอยู่รอดได้ในวิกฤต
บริษัทที่มีความพร้อมในด้านเทคโนโลยี ก็จะทำให้องค์กรมีความคล่องตัวมากขึ้น โอกาสทางธุรกิจก็จะเพิ่มขึ้น การสร้างความคล่องตัวให้กับองค์กร คือ เลือกเทคโนโลยีที่ทำให้องค์กรสามารถปรับตัวได้รวดเร็วขึ้น สามารถต่อสู้กับความไม่แน่นอนได้มากขึ้น
“เพราะฉะนั้น เทรนด์ ที่จะเป็น Last long คือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับให้องค์กรเป็น Agile Organization โดยใช้ Cloud และ Collaboration Tool ต่างๆ เข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวได้เร็ว ทั้งนี้องค์กรจะไปในรูปแบบนี้ได้ บุคลากรจะต้องมีสกิล และมี Mindset ที่ดี” พชร กล่าวปิดท้าย
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
21 ปีกับแคนนอน ของ “ทรงพล สาหร่าย” เป้าหมายคือการส่งต่อวัฒนธรรมดีๆ ให้องค์กร
ย้อนดู Microsoft ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ Windows กับการบริหารความสำเร็จ
พชร กล่าวว่า เทคโนโลยีเป็นเรื่องที่มาแล้วไป มีอะไรใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้กับธุรกิจได้เพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้ง AI, Blockchain และ Robotic Process Automation (RPA) เป็น 3 เรื่องที่วงการธุรกิจนำมาใช้กันมาก
-AI ถูกนำมาใช้ในธุรกิจในทุกๆ เรื่อง เข้ามาทำงานแทนคนในเรื่องการตัดสินใจ เพราะถ้าตัดสินใจได้ดีกว่าคู่แข่ง โอกาสที่จะชนะในการทำธุรกิจก็มีสูงกว่า
-Blockchain เข้ามาดิสรัปต์ในหลายเรื่อง เช่น การทำธุรกรรมทางการเงินโดยตัดตัวกลางออก เรียกว่า Decentralized Finance ทำให้ค่าใช้จ่ายในการจัดการต่างๆ ลดลง ธุรกิจสามารถตอบสนองลูกค้าได้ดีขึ้น หรือการนำมาใช้ระดมทุน โดยการทำ Tokenization
-RPA เป็นการเขียนซอฟต์แวร์ขึ้นมาทำงานบางอย่างแทนมนุษย์ ช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น ทำงานจำนวนมากได้รวดเร็วมากขึ้น
“แต่สิ่งที่องค์กรควร Transform ไปนั้น คือ การสร้างขีดความสามารถขององค์กร เป็น Agile Organization คือ องค์กรที่สามารถเรียนรู้ได้เร็ว ปรับตัวได้เร็ว”
สถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจไหนที่มีความสามารถในการปรับตัวเร็ว เช่น สามารถย้ายจากพนักงานหน้าร้านมาเป็นพนักงานตอบแชทได้ภายในชั่วข้ามคืน สามารถให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ หรือเปลี่ยนจากเซลล์ที่ทำงานออฟไลน์มาเป็นออนไลน์ได้ การปรับตัวได้เร็วก็จะได้เปรียบ และทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้
อีกส่วนหนึ่ง คือ ธุรกิจกำลังเจอกับความไม่แน่นอน เช่น ไม่รู้ว่าธุรกิจจะเปิดหรือปิดหน้าร้านวันไหน การที่ยุบหรือขยายทุกอย่างได้เร็ว จับเทรนด์ใหม่ๆ ได้เร็ว ก็จะอยู่รอดได้ในวิกฤต
บริษัทที่มีความพร้อมในด้านเทคโนโลยี ก็จะทำให้องค์กรมีความคล่องตัวมากขึ้น โอกาสทางธุรกิจก็จะเพิ่มขึ้น การสร้างความคล่องตัวให้กับองค์กร คือ เลือกเทคโนโลยีที่ทำให้องค์กรสามารถปรับตัวได้รวดเร็วขึ้น สามารถต่อสู้กับความไม่แน่นอนได้มากขึ้น
“เพราะฉะนั้น เทรนด์ ที่จะเป็น Last long คือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับให้องค์กรเป็น Agile Organization โดยใช้ Cloud และ Collaboration Tool ต่างๆ เข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวได้เร็ว ทั้งนี้องค์กรจะไปในรูปแบบนี้ได้ บุคลากรจะต้องมีสกิล และมี Mindset ที่ดี” พชร กล่าวปิดท้าย
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
21 ปีกับแคนนอน ของ “ทรงพล สาหร่าย” เป้าหมายคือการส่งต่อวัฒนธรรมดีๆ ให้องค์กร
ย้อนดู Microsoft ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ Windows กับการบริหารความสำเร็จ
อัปเดตคอร์สใหม่และส่วนลดคอร์สต่างๆ
Thank you!
Policy Pages
Copyright © 2022
รับสิทธิพิเศษก่อนใคร แอดไลน์ @shiftyourfuture