นักขายใครก็ทำได้ แต่ทำยังไง ให้เราพัฒนาเป็นนักขายมืออาชีพ “Consultative Selling” ได้ ทำตาม 4 วิธีนี้เลย

นักขายใครก็ทำได้ แต่ทำยังไง ให้เราพัฒนาเป็นนักขายมืออาชีพ “Consultative Selling” ได้ ทำตาม 4 วิธีนี้เลย

นักขายใคร ๆ ก็ทำได้ ขายสินค้า 1 ชิ้นแล้วจบไป แต่ถ้าอยากเลื่อนขั้น พัฒนาตัวเองเป็นนักขายมืออาชีพ ที่สามารถขายสินค้า สร้างความสัมพันธ์ มัดใจลูกค้าจนอยากซื้อซ้ำ อยากแนะนำเราต่อกับคนรอบตัว และเปลี่ยนเราให้กลายเป็นนักขายอันดับแรกที่ลูกค้านึกถึง ให้ลูกค้าเชื่อถือ และวางใจในตัวเรา จนส่งผลต่อการขายระยะยาวที่ลูกค้าจะนึกถึงเราตลอด !

ก็ต้องลองวิธีนี้ “Consultative Selling” การขายที่วินวินทั้ง 2 ฝ่าย เราได้ขายสินค้า ลูกค้ารู้สึกว่าเราสามารถแก้ปัญหาให้เค้าได้เหมือนนั่งอยู่กลางใจว่ามีความต้องการอะไร เหมือนเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว รับบทนักขายผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาด้านสินค้า เป็นการขายที่ให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจ รู้สึกได้ถึงความคุ้มค่าในสินค้า และในอนาคตอาจพัฒนาไปถึงการเข้ามาถึงซื้อกับเราโดยตรง เปิดคำสั่งซื้อเองแบบไม่ต้องรอขายเลยทีเดียว

SHiFT Your Future จะช่วยพัฒนาทักษะเพื่ออนาคตของคุณกับเส้นทางนักขายมืออาชีพ
เริ่มที่ทำตาม 4 วิธีนี้เลย


ขั้นแรก สร้างความประทับใจ เริ่มสร้าง Trust กับลูกค้าแบบจริงใ


นักขายมืออาชีพก็ต้องมากับความสามารถสร้าง First Impression ให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่แรกเห็น
เห็นถึงความต่างระหว่างเรากับนักขายคนอื่น ที่เริ่มจากการสร้างความเชื่อมั่นด้วยภาพลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นมืออาชีพ ทั้งการแสดงผ่านสีหน้า ท่าทางและวิธีการพูดให้ลูกค้า ‘รู้สึก’ ได้ถึงความจริงใจที่ไม่ใช่แค่อยากขายแต่ต้องการให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดด้วย ให้ ‘รู้สึก’ วางใจว่าเราคือที่ปรึกษาของลูกค้าและให้ ‘รู้สึก’ ว่าเค้าสามารถเชื่อถือเราได้ เราคือนักขายที่ลูกค้าต้องการและกำลังมองหาอยู่

ขั้นต่อไป รับฟังความต้องการ และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรานี่แหละคือนักขายที่เข้าใจเค้าที
่สุด

เพราะลูกค้าแต่ละคนมีความต้องการแตกต่างกันไป นักขายมืออาชีพจึงควรมีทักษะ ‘การฟังอย่างเข้าใจ’  รับฟังลูกค้าแบบจริงใจ ให้ลูกค้ารู้สึกว่า เราอยากจะแก้ไข หรือหาสินค้าที่เหมาะสมให้เค้าจริง ๆ เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า และสามารถถามคำถามที่จะเจาะลึกถึงกลางใจความต้องการได้อย่างตรงจุด นำเสนอจุดเด่นของสินค้าให้เข้ากับลูกค้าเหมือนรู้ใจ ดึงให้ลูกค้ารับรู้ว่าได้ว่า เรานี่แหละคือนักขายที่เข้าใจถึงหัวใจของเค้ามากที่สุด ชนิดที่ว่านักขายคนอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้แน่นอน


รวมถึงต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจว่าเราได้ช่วยเลือกสินค้าที่ดีที่สุดให้ เป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้า รู้ว่าเราคือคนที่คอยช่วยให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้น ได้รับประโยชน์จากสินค้าจริง ๆ

จริง ๆ หัวใจหลักของการขายแบบ “Consultative Selling” คืออยู่ที่ลูกค้าเป็นหลัก แน่นอนว่าการขายนั้นนักขายมืออาชีพก็ต้องคอยสังเกตความรู้สึกของลูกค้า ขายให้ลูกค้าไม่รู้สึกอึดอัด รู้สึกสบายใจ ไม่รู้สึกว่ายัดเยียด แต่ให้รู้ว่าเรากำลังช่วยเลือกสินค้าที่ดี เป็นเพื่อนที่หวังดี อยากให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากสินค้าเราจริง ๆ ทั้งวิธีการนำเสนอสินค้าที่ต้องเน้นไปที่ประโยชน์ ชีวิตที่ดีขึ้นของลูกค้า บวกกับพฤติกรรมของตัวเรานี่แหละที่ต้องทำให้ลูกค้าเชื่อใจ วางใจว่าเรากำลังช่วยตอบความต้องการของเค้าอยู่ มั่นใจว่าเราคือคนที่เข้าใจปัญหาและกำลังมอบสินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้เค้าอยู่ เพราะสุดท้ายแล้วบางกลุ่มลูกค้าปัจจัยด้านราคาหรือสินค้าอาจไม่มีผลต่อการตัดสินใจ แต่เค้าอาจจะใช้ความรู้สึกตัดสินว่าจะซื้อสินค้าจากเราหรือไม

สุดท้าย ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ลูกค้ารู้สึกว่า เราอยู่เคียงข้างและไว้ใจเราได้ เพื่อเปิดช่องทางขายในอนาคตแบบระยะยา


แน่นอนว่า นักขายมืออาชีพไม่ใช่การขายสินค้าเพียงครั้งเดียวแล้วจบไปแน่นอน
เพราะเรากำลังตั้งเป้าว่า มันคือการขายแบบต่อเนื่อง ให้ลูกค้าติดใจ และรู้ได้ว่าเราคอยติดตาม อยู่เคียงข้าง สร้างความสัมพันธ์ที่ดี เราคือนักขายที่ลูกค้าสามารถวางใจได้ เข้าใจทุกสถานการณ์และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และเราสามารถนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมกับเค้าได้จริง ๆ

เพราะบางครั้งสินค้าของเรา อาจต้องให้เวลาลูกค้าตัดสินใจสักนิดและลูกค้าอาจยังไม่พร้อมที่จะซื้อตอนนี้ แต่ถ้าเรามีความสัมพันธ์ที่ดีแล้ว อนาคตลูกค้าก็จะนึกถึงเราเป็นคนแรก ๆ แน่นอนว่า ถ้าเราใส่ใจจดจำลูกค้า มาพร้อมคำแนะนำเพิ่มเติมที่แก้ไขปัญหาบางอย่างให้ลูกค้าได้ เราก็จะสามารถมัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด ให้เค้ากลับมาซื้อสินค้าจากเราซ้ำ ๆ และเพิ่มโอกาสบอกต่อความประทับใจนี้ให้กับคนรอบตัวเค้าด้วย

เรียกว่าทั้งรักษาลูกค้าเดิมอยู่หมัด แถมเพิ่มโอกาสสร้างลูกค้าใหม่ได้อีกด้วย

“Consultative Selling” จึงเป็นเทคนิคการขายที่เหมาะกับคนที่อยากเรียนรู้ พัฒนาตัวเองจากนักขายทั่วไปที่บางทีก็เหนื่อยกับการเข้าหาลูกค้า คุยทีไรลูกค้าก็ไม่เปิดใจสักที ลูกค้าเดิมก็รักษาความสัมพันธ์ไว้ไม่ได้ วิธีการนำเสนอสินค้าก็ยังไม่เข้าปาก ให้กลายเป็นนักขายมืออาชีพที่สามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง ลูกค้านึกถึงเป็นตัวเลือกแรก ๆ

แน่นอนว่า Consultative Selling ก็ต้องมีการพัฒนาไปเรื่อย ๆ นักขายมืออาชีพจึงไม่ควรหยุดเรียนรู้ ไม่ควรหยุดพัฒนาทักษะ เพื่อให้อนาคตสามารถตอบโจทย์ความต้องการหรือพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ให้ลูกค้าอยากเข้าหาเราทุกครั้ง ส่วนทักษะอะไรที่นักขายมืออาชีพต้องเรียนรู้ หรืออยากพัฒนาทักษะอะไรเพิ่มเติม สามารถเข้าดูที่ SHiFT Academy ได้เลย รับรองว่ามีทักษะที่ตอบโจทย์สำหรับคนชอบเรียนรู้ ไม่หยุดพัฒนาตัวเองแน่นอน

Created with