Digital Marketing ความรู้ที่ไม่ควรละเลย เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างรวดเร็ว

กว่า 1 ปีครึ่ง ที่ต้องอยู่กับวิกฤติโควิด-19 เราทุกคนอยู่ในสถานการณ์ที่ “ถูกบังคับให้ปรับตัว” ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องการก็ตาม และได้เห็นว่าพฤติกรรมคนเปลี่ยนไปอยู่บนโลกดิจิทัลกับเกือบจะ 100% ของชีวิตประจำวันแล้ว

ด้านผู้ประกอบการก็ต้องเรียนรู้เรื่องการค้าขายออนไลน์มากขึ้น แต่การแค่นำของขึ้นไปขายออนไลน์อย่างเดียวนั้นอาจจะยังไม่พอ เพราะเราต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่อยู่บนโลกออนไลน์ รวมถึงต้องเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

การ Upskill Reskill จึงจำเป็นสำหรับชีวิตคนทำงานในทุกสายอาชีพ สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ขายได้ในวันนี้ อาจจะขายไม่ได้ในอนาคต ถึงแม้ว่าจะวางขายผ่านออนไลน์ เพียงเพราะเราไม่รู้วิธีการทำการตลาดให้ตรงใจลูกค้า

การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) จึงเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะโลกปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา แต่มีเรื่องอะไรบ้างล่ะ ที่เราต้องรู้ ในบทความนี้ SHiFT Your Future จะมาแนะนำทักษะการตลาดดิจิทัลที่ทุกคนต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ดังนี้

เรียนรู้ความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค
ต้องเก็บข้อมูล และศึกษา ความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา อย่ามั่นใจว่าสินค้าที่เคยขายได้ดี จะยังขายได้ต่อไป โดยเฉพาะเมื่อวิธีการของเรานั้นคู่แข่งสามารถลอกไปใช้ได้โดยง่าย ก็อาจจะทำให้เสียส่วนแบ่งการตลาดไปในอนาคต

เพราะฉะนั้น การที่เราเรียนรู้ผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายสินค้าหรือบริการ สื่อสารได้ตรงใจความต้องการของลูกค้า ให้มีความพิเศษไม่เหมือนใคร จะทำให้ลูกค้าจดจำ มีโอกาสกลับมาซื้อซ้ำ ไม่หนีไปหาคู่แข่ง

ปรับวิธีการเข้าถึงลูกค้า และมองหาช่องทางใหม่ๆ อยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง อีคอมเมิร์ซ อย่าง Lazada, Shopee หรือ โซเชียลคอมเมิร์ซ อย่าง Facebook, Instagram, LINE, YouTube, TikTok จะต้องศึกษาการเปลี่ยนแปลงไปของแพลตฟอร์มเหล่านี้ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มนั้นมักจะมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาให้เล่นอยู่เสมอ

แบรด์จะต้องเรียนรู้และปรับตัวให้ทันกับแพลตฟอร์มต่างๆ เลือกวิธีการที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้ามากที่สุด และเมื่อเกิดแพลตฟอร์มใหม่ๆ ขึ้นมาในอนาคตก็จะต้องเข้าไปเรียนรู้เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมเพื่อเข้าหาลูกค้า

สร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจลูกค้า
หัวใจหลักของการทำการตลาดคือ ข้อความที่จะส่งไปถึงลูกค้า ซึ่งคอนเทนต์นั้นสามารถสร้างได้หลายรูปแบบทั้งข้อความ ภาพนิ่ง อินโฟกราฟิก วิดีโอคลิป และ ไลฟ์ขายของ เราจะต้องจับให้ได้ว่าลูกค้าอยากได้การสื่อสารในแบรนด์รูปแบบไหน เช่น ธุรกิจอาหาร จะต้องถ่ายภาพอาหารสวยๆ ทำอินโฟกราฟิกให้ดูว่าใช้วัตถุดิบพรีเมียมอะไรบ้าง หรือ ทำวิดีโอสั้นๆ ให้ดูขั้นตอนการทำอาหารสูตรพิเศษ

อีกสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างคอนเทนต์ คือ เราจะทำคอนเทนต์ชิ้นเดียวลงทุกแพลตฟอร์มไม่ได้ เพราะลูกค้าในแต่ละแพลตฟอร์มมีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันออกไป จึงต้องคิดวิธีการสื่อสารให้เหมาะสมกับลูกค้าที่อยู่ในแต่ละแพลตฟอร์มด้วย

ยิงโฆษณาเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ
ต้องยอมรับว่าในยุคนี้นั้น ทำคอนเทนต์ดีอย่างเดียวคงจะไม่พอ เพราะใคร ๆ ต่างก็เข้ามาทำการตลาดบนโลกออนไลน์กันหมด

สิ่งที่ผู้ประกอบการและนักการตลาดควรจะต้องศึกษาตลอดเวลา คือ จะทำอย่างไรให้ลูกค้าจำนวนมากเห็นสินค้าเราที่ต้องการขายผ่านโลกออนไลน์ ทั้งการใส่คีย์เวิร์ดให้ถูกต้อง เพื่อให้คนค้นหาผ่าน Search Engine ค้นหาสินค้าและบริการเราได้เจอเป็นลำดับต้นๆ รวมถึงการซื้อโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Instagram ที่จะต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน แม่นยำ เพื่อสร้างการรับรู้และนำไปสู่การสร้างยอดขาย

สุดท้ายนี้ วิธีการต่างๆ ของ Digital Marketing นั้นเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งให้ขายสินค้าได้ เพราะถึงแม้ว่าจะสร้างยอดขายผ่านช่องทางโลกออนไลน์ได้สำเร็จตรงเป้าอย่างสวยหรู ยอดขายถล่มทลาย แต่ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ บริการหลังการขายไม่ดี ก็อาจจะโดนลูกค้าถล่มกลับมาเช่นกัน และต่อให้ใช้วิธีดีขนาดไหนลูกค้าก็จะไม่กลับมาซื้อซ้ำอีก