F.I.R.E Movement การออมเงินแบบไฟลุก เส้นทางใหม่สำหรับคนอยากเกษียณตั้งแต่อายุ 30

  • คุณสามารถเกษียณได้ในอายุ 30 หากทำตามแนวทางการออมเงินแบบ F.I.R.E Movement ที่หักเงินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของรายได้สุทธิมาเป็นเงินออม ซึ่งจะทำให้คุณมีเงินเก็บได้มากในเวลาที่รวดเร็ว และไสู่อิสรภาพทางการเงินได้ในที่สุด
  • การออมเงินวิธีนี้อาจใช้ไม่ได้กับทุกคน เนื่องจากคุณต้องมีรายได้จำนวนหนึ่งจึงจะสามารถทำตามแนวทางนี้โดยไม่เดือดร้อนได้
  • แม้จะปฏิบัติตามได้ยาก แต่ก็มีแนวคิดเบื้องหลัง F.I.R.E Movement หลายประการที่มีประโยชน์และสามารถนำมาปรับใช้ได้กับการออมเงินแนวทางอื่น นอกจากนี้ Roadmap ไปสู่การออมเงินแบบ F.I.R.E Movement ยังเป็นแนวทางที่น่าปฏิบัติตามไม่ว่าคุณจะออมเงินในรูปแบบใดก็ตาม

คุณเคยได้ยินคำกล่าวที่บอกว่า “การเกษียณไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน” หรือเปล่า? นั่นคือคำกล่าวที่ล้มล้างความเชื่อที่ว่าคุณต้องทำงานจนถึงอายุ 65 ถึงจะเกษียณได้ เพราะหากการเกษียณขึ้นอยู่กับเงิน เมื่อไหร่ที่เรามีเงินพอ ก็เลิกทำงานแล้วเกษียณไปพักผ่อนได้สบายๆ

ยุคนี้คนรุ่นใหม่หลายคนเริ่มหันมาวางแผนเกษียณเร็วขึ้นหรือที่เรียกกันคุ้นหูกันว่า ‘Early Retire’ ซึ่งคำว่า Early ของพวกเขาคือตั้งแต่อายุ 30-40 กันเลยทีเดียว

คุณอาจจะตกใจว่าจะเป็นไปได้ยังไง บ้าไปแล้ว แค่เกษียณตอน 45 ยังยากเลย แต่คุณอ่านไม่ผิดหรอก พวกเขาวางแผนกันแบบนั้นจริงๆ  และวิธีที่พวกเขาใช้ทำให้ตัวเองเกษียณได้เร็วขึ้นคือการเก็บเงินแบบ ‘F.I.R.E Movement’

วันนี้เราหยิบบทความ ‘What Is the F.I.R.E. Movement?’ จาก Dave Ramsey โค้ชการเงินชื่อดัง ที่จะพาทุกคนมารู้จัก F.I.R.E Movement การเก็บเงินแบบใหม่ที่กำลังฮอต มาดูไปด้วยกันแล้วลองคิดว่ามันเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณมั้ย ไม่แน่ว่าคุณอาจจะเป็นอีกคนที่เกษียณได้ตั้งแต่อายุ 40 เลยก็ได้
การออมเงินแบบ F.I.R.E Movement คืออะไร?
F.I.R.E ย่อมาจาก ‘Financial Independence, Retire Early’ หรือแปลเป็นไทยว่าการมีอิสระทางการเงิน และเกษียณก่อนกำหนดได้ วิธีที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายนั้นคือการเก็บเงินอย่างดุเดือด ประหนึ่งว่าไฟแห่งนักออมในตัวกำลังลุกโหม โดยเก็บถึง 50-75% ของเงินเดือน เพื่อที่จะเกษียณได้ตั้งแต่อายุ 30-40

ใช่ คุณต้องเก็บเงิน ‘ครึ่ง’ หนึ่งของเงินเดือน

ตอนนี้คุณคงกำลังงงว่าทำได้ยังไงกันเนี่ย วิธีนั้นก็คือ ใช้จ่ายให้น้อยที่สุดแล้วเก็บให้มากที่สุด ยิ่งมีรายได้สูงก็จะยิ่งใช้น้อยเก็บมาก เพื่อจะได้เกษียณให้เร็วทึ่สุดและค่อยไปใช้เงินสบายๆ หลังเกษียณ

อีกประเด็นที่ควรรู้คือการมีอิสระทางการเงินไม่ใช่การมีชีวิตแบบนั่งริมทะเลสบายๆ ไปตีกอล์ฟทุกสัปดาห์โดยไม่ต้องทำอะไรเลย อันนั้นก็อาจจะต้องมีต้นทุนความรวย หรือเป็นเศรษฐีมาก่อน แต่มันคือการที่คุณไม่จำเป็นต้องทำงานฟูลไทม์ถ้าไม่อยากทำ อาจจะเป็นการเปลี่ยนไปทำงานน้อยลงเท่าที่ต้องการ หรืออาจหยุดทำงานไปเลยก็ได้เช่นกัน

F.I.R.E Movement สอนอะไรเราบ้าง?
F.I.R.E Movement จะดีหรือไม่อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่สิ่งหนึ่งที่การเก็บเงินแบบ F.I.R.E Movement สอนเราคือการมีความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างสูงที่จะไปสู่เป้าหมายที่ฝันไว้ ไม่ว่าคุณจะชอบการเก็บเงินแบบนี้หรือไม่ แต่ลองเอาบทเรียนต่อไปนี้ไปคิดดูเล่นๆ (หรือจะจริงจังเลยก็ไม่ว่ากัน)

  • F.I.R.E Movement สอนว่า เริ่มวางแผนการเกษียณอย่างรวดเร็วตั้งแต่อายุยังน้อย วาดภาพการเกษียณในหัวและเริ่มวางเส้นทางไปสู่เป้าหมาย
  • F.I.R.E Movement สอนว่า จงหาทางจำกัดค่าใช้จ่ายให้ต่ำที่สุด รอบคอบกับการใช้จ่าย และยอมตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป
  • F.I.R.E Movement สอนว่า หาทางเพิ่มรายได้จากการทำงาน หรือหารายได้เสริม ซึ่งจะช่วยได้เยอะมากในการเกษียณ
  • F.I.R.E Movement สอนว่า จงให้ความสำคัญกับการเก็บเงินและการลงทุน เพราะมันเป็นอีกวิธีหลักที่จะช่วยให้มีเงินเพื่อการเกษียณ


ทำไม F.I.R.E Movement อาจไม่เหมาะกับทุกคน?
คำตอบคือเพราะการที่จะเก็บเงินให้ได้อย่างน้อย 50% ของรายได้ต่อเดือนหมายความว่าคุณต้องมีรายได้จำนวนมากพอสมควรที่จะเก็บเงินได้ในขณะที่ยังมีเงินพอใช้รายเดือน ซึ่งถึงจะเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ประหยัดลงแล้ว Fixed Cost มากมาย โดยเฉพาะชีวิตของคนในเมืองหลวงอาจะเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ไม่ว่าจะประหยัดยังไงก็เก็บไม่ได้ 50% อยู่ดี

แต่อย่าให้อุปสรรคนี้มาบั่นทอนกำลังใจคุณ ถ้าหากคุณอยากลองทำตามแนวทางนี้จริงๆ ทางออกคือการ หารายได้เสริม หรือนำเงินไปลงทุนอย่างที่เราบอกไปด้านบน หากทำตามนี้ก็จะมีความเป็นไปได้แน่นอน อย่ามัวแต่คิดว่าต้องเป็นคนรวย ได้เงินเดือนสูงเท่านั้นจึงจะเกษียณได้อย่างสบายใจ ทุกคนสามารถทำได้ แค่ต้องใช้เวลา

เราเข้าใจว่าการจะเก็บเงินกว่า 50% ของรายได้ตามแนวทางนี้เลยอาจจะเป็นเรื่องที่ลำบากเกินไป แน่นอนทุกคนมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เท่ากัน แต่ขั้นแรกคุณอาจจะลองเริ่มจาก 10-15% ก่อน อย่างน้อยสิ่งนี้ช่วยสร้างนิสัยการเก็บเงินที่ดีในตัวคุณแน่นอน แล้วเมื่อพร้อมแล้ว ค่อยขยับไป 50%
Business man counting dollar banknote – online business concept

สิ่งที่ ‘ไม่ควรทำ’ ถ้าอยากเก็บเงินแบบ F.I.R.E Movement
1. อย่าถลุงเงินไปกับบัตรเครดิต เพราะคุณไม่มีทางรอดจากการเป็นหนี้แน่ๆ
คนที่เก็บเงินแบบ F.I.R.E Movement บางคนอาจจะออกมาบอกว่าให้ใช้บัตรเครดิตเพื่อเก็บคะแนนมาแลก เต่ความเป็นจริงแล้วสถิติจะเห็นว่า 3 ใน 4 ของคนอเมริกันยุคมิลเลนเนียลมีหนี้บัตรเครดิตกว่า 36,000 ดอลลาร์ และความเป็นจริงที่ยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้คือการมีหนี้ทำให้คุณเก็บเงินยากขึ้นแน่นอน คุณอาจจะมองว่าถ้าจ่ายตรงเวลาก็ไม่เป็นไร แต่มันต้องมีสักครั้งในชีวิตที่เกิดเหตุฉุกเฉินทางการเงินจนจ่ายไม่ทัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของหนี้ลูกโซ่ที่จะผูกมัดคุณไปตลอด

2. อย่าทำตาม F.I.R.E Movement แค่เพราะจะหนีจากงานที่เกลียด
คนส่วนหนึ่งหันมาหา F.I.R.E Movement เพราะพวกเขาเกลียดงานที่ทำอยู่ และอยากจะหนีจากงานนั้นให้เร็วที่สุด แต่รู้มั้ยว่า F.I.R.E Movement ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดเลย ทางแก้ที่ตรงจุดคือเปลี่ยนงานใหม่ หางานที่คุณสามารถเป็นตัวเอง และแสดงความสามารถออกมาได้มากที่สุดดีกว่า ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะเสียเวลากว่า 10 ปีทนทำงานที่เกลียด และการทำงานที่ไม่ชอบก็ไม่มีทางช่วยเพิ่มรายได้ให้คุณได้ เพราะคุณจะไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงานให้ดี หรือก้าวหน้าในการงาน อย่านึกถึงการเลื่อนตำแหน่งเลย แค่ทำงานวันต่อวันยากพออยู่แล้ว

เส้นทางสู่ ‘Early Retire’
การเกษียณที่ดีต้องมีเส้นทางที่ชัดเจน จริงๆ แล้วไม่ว่าคุณจะเกษียณตามปกติ หรือเกษียณก่อนกำหนด ต้องมีแผนการที่ละเอียดและต้องคำนวณเงินที่ต้องใช้ให้ชัดเจน วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำ Roadmap ที่ทำได้ทั้งพาคุณไปสู่ Early Retire แบบ F.I.R.E Movement และให้คุณนำไปปรับใช้กับการวางแผนแบบปกติได้ด้วยเช่นกัน

Step 1: จ่ายหนี้ให้หมด และเก็บเงินสำรองฉุกเฉินให้ครบ
หนี้คือตัวร้ายที่ขัดขวางคนจากการมีอิสรภาพทางการเงิน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือปิดยอดหนี้ให้หมด ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้รถต่างๆ หลังจากนั้นจึงค่อยเริ่มเก็บเงินสำรองฉุกเฉินให้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย 3-6 เดือน เท่านี้คุณก็จะมีฟูกรองรับความเสี่ยง เกิดเหตุฉุกเฉินอะไรก็ไม่กลัว พร้อมเดินหน้าออมเงิน

Step 2: ลงทุน 15% ในกองทุนเพื่อการเกษียณที่ช่วยลดหย่อนภาษี
มาถึงขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่คุณจะได้เริ่มออมเงินเพื่อการเกษียณแล้ว หักเงิน 15% ของรายได้สุทธิทุกเดือนมาลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณ นอกจากจะมองเห็นอิสรภาพทางการเงินอยู่ใกล้ๆ แล้ว ยังช่วยลดหย่อนภาษีอีกด้วย

Step 3: เก็บเงินค่าเทอมลูกๆ ไว้ให้พร้อม และพยายามปิดหนี้บ้าน
การเตรียมเงินค่าเทอมลูกไว้ล่วงหน้าจนจบมหาลัยคิออีกทางที่จะช่วยคุณได้มากในการไปสู่อิสรภาพทางการเงิน เพราะหากไม่เตรียมไว้ก่อนแล้วต้องไปสร้างหนี้เพิ่ม เป้าหมายของคุณก็ไกลออกไปอีก

ที่สำคัญคุณควรปิดยอดหนี้บ้านให้เร็วที่สุดเช่นกัน รวบรวมเงินก้อนแล้วจัดการให้จบ ลองคิดดูว่าคุณจะมีเงินเก็บเพื่อเกษียณมากขึ้นขนาดไหนถ้าไม่ต้องจ่ายหนี้บ้านรายเดือน

Step 4:  ลงทุนในกองทุนให้มากกว่าเดิม
เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ ถือว่าปลอดหนี้เต็มตัว เพราะฉะนั้นขั้นต่อไปที่ควรทำคือลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณให้มากขึ้นไปอีก แต่สิ่งที่ต้องจำคือคุณห้ามถอนเงินออกจากกองทุนนี้จนกว่าจะอายุ 55 ปีนะ ซึ่งถ้าหากลงทุนในนี้จนหมด ก็อาจจะเกิดความเสี่ยงที่จะถอนไม่ได้เลยแม้มีเรื่องฉุกเฉิน ซึ่งทางแก้จะอยู่ในข้อต่อไป

Step 5: ลงทุนเพิ่มเติมในกองทุนความเสี่ยงต่ำ
กองทุนพวกนี้เรียกกันว่า “Bridge Account” เพราะเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างกองทุนเพื่อการเกษียณที่ถอนไม่ได้และความต้องการถอนเงินเมื่อเกิดเรื่องฉุกเฉิน คุณควรมีกองทุนความเสี่ยงต่ำเป็นสะพานเชื่อม โดยลงทุนในนี้ให้เท่ากับจำนวนเงินที่จะใช้ต่อปีหลังเกษียณ เพื่อให้มีเงินที่ถอนได้ไว้กันเหนียว  ซึ่งคุณอาจจะต้องเสียภาษีให้กองทุนนี้ แต่เมื่อคุณถึงอายุที่ถอนเงินจากกองทุนเพื่อการเกษียณได้เมื่อไหร่ ค่อยโยกไปไว้รวมกัน

Roadmap นี้จะพาคุณไปสู่ความสามารถในการออมเงินแบบ F.I.R.E Movement ลองทำตามนี้ดู หรือลองเอาเทคนิคต่างๆ ไปปรับใช้ เชื่อเถอะว่าอิสรภาพทางการเงินอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ เราเอาใจช่วยอีกแรง
Created with