3 วิธีเลือก “กองทุนรวม” ให้เหมาะกับเป้าหมายชีวิต

กองทุนรวม (Mutual fund) เป็นการรวบรวมเงินทุนจากนักลงทุนคนละเล็กคนละน้อย เพื่อรวมเป็นเงินก้อนใหญ่ และนำไปลงทุนตามที่ได้ตกลงกับนักลงทุน ในปัจจุบันเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนหน้าใหม่ในประเทศไทยมากขึ้น เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ง่ายกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ทั้งผลตอบแทนดี มีคนดูแลให้ กระจายความเสี่ยงได้ ซื้อขายสะดวก นอกจากนี้ยังเริ่มต้นโดยใช้เงินน้อย ในบางกองทุนแค่หลักร้อยบาทก็ซื้อได้

แต่ปัญหาที่มักจะพบกับนักลงทุน คือ จะลงทุนกับธุรกิจอะไรดี ไม่รู้ว่าตัวเองมีเป้าหมายการลงทุนอย่างไร ลงทุนไปเพื่ออะไร

ในบทความนี้ SHiFT Your Future จะมาช่วยหาคำตอบให้กับนักลงทุนที่กำลังมองหากองทุนที่เหมาะสมกัน

เรียนรู้ความเสี่ยง ผลตอบแทน และระยะเวลาที่เหมาะสม ของแต่ละกองทุน
สิ่งสำคัญก่อนจะควักเงินตัวเองไปลงทุนกับอะไรนั้น สิ่งแรกที่นักลงทุนจะต้องรู้ก่อนเลยคือ รับได้ไหมที่จะสูญเสียเงินบางส่วนไปหากผิดพลาด ต้องการผลตอบแทนเท่าไร และสามารถถือไว้กี่ปีโดยไม่มีผลกระทบกับสถานะการเงินตัวเอง จากนั้นจึงเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะกับเป้าหมาย ซึ่งสามารถดูตารางได้จากภาพประกอบด้านล่างนี้
วางแผนชีวิตให้ชัด เลือกระยะเวลาการลงทุนที่เหมาะสม
หลังจากเรียนรู้ความเสี่ยง ผลตอบแทน และระยะเวลาที่เหมาะสมแล้ว ขั้นต่อไปคือการเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับแผนชีวิตของเรา

ซึ่งสิ่งสำคัญก่อนจะไปลงทุนนั้น จะต้อง เจาะจงชัดเจน วัดผลได้ ทำให้สำเร็จได้ สมเหตุสมผล จากนั้นมาดูว่ามีเงินเท่าไร ความเสี่ยงของกองทุนที่รับได้ อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง และมีวิธีการลงทุนอย่างไร

ตัวอย่างง่ายๆ เช่น สมมุติว่าเรามีแผนจะซื้อบ้านในอีก 5 ปีข้างหน้า และมั่นใจว่ามีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินในระหว่างทางมากพอ ก็อาจจะเลือกกองทุนเพื่อลงทุนระยะ 3-5 ปี อย่างพวก “กองทุนรวมผสม” หรือ “กองทุนรวมหุ้น” เพราผลตอบแทนดีกว่าการเลือกลงทุนในระยะสั้นหลายๆ รอบ

ส่วนคนที่วางแผนเกษียณ เก็บเงินระยะยาว ใช้ลดหย่อนภาษีได้ และไม่อยากเสี่ยงมากก็อาจจะเลือกลงทุนกับกองทุน RMF หรือ SFF แทน

เลือกกองทุนที่ดี ลงทุนกับธุรกิจที่มีเราความรู้ เพื่อบรรลุเป้าหมาย
เมื่อเรามีแผนชีวิตแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือจะลงทุนกับกองทุนไหนดี ซึ่งวิธีง่ายๆ ของการเลือกกองทุนที่ดีนั้นมีอยู่ 3 ข้อคือ

ดูผลตอบแทนย้อนหลัง – ลองไล่ดูกองทุนหลายๆ ตัว และเลือกกองทุนที่มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3-5 ปี ดีต่อเนื่อง เพราะกองทุนใหม่ๆ ใช่ว่าจะเป็นกองทุนที่ดีเสมอไป

สไตล์การลงทุน – ลงทุนหุ้นบริษัทใหญ่ หรือหุ้นบริษัทเล็ก ลงทุนประเทศไหนบ้าง ในอุตสาหกรรมอะไรบ้าง Fund Manager คนที่บริหารเงินลงทุนของเราอยู่ ประวัติการลงทุนดีหรือไม่ สามารถนำเงินเราไปต่อยอดได้หรือไม่ ซึ่งสามารถดูได้จากหนังสือชี้ชวน แต่ถ้ายังไม่เข้าใจก็แนะให้โทรไปถาม บลจ.

ค่าธรรมเนียมแพงไหม – คือทั้งค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อ กับค่าธรรมเนียมรายปีซึ่งในความเป็นจริงแล้วจะถูกหักทุกวันโดยเฉลี่ยจากรายปี นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมตอนขายกองทุนอีกด้วย ซึ่งค่าธรรมเนียมรายปีจะมีผลกับการลงทุนระยะยาวมาก ถ้าค่าธรรมเนียมสูงก็จะมีผลกับผลตอบแทนระยะยาวของเรา

ทั้งนี้การเลือกกองทุนที่ดีนั้น สิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่งคือเราต้องรู้จักธุรกิจที่เรากำลังจะไปลงทุน และคอยศึกษาเทรนด์ รวมถึงการเติบโตในอนาคตของธุรกิจเหล่านี้ด้วย

สุดท้ายนี้ นักลงทุนจะต้องทราบว่า ทุกการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ต้องเข้าใจเสมอว่าเรากำลังลงทุนกับอะไร มีกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร และศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างเป้าหมายชีวิตที่ยั่งยืน

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 ทัศนคติด้านการเงินที่ควรมีติดตัว เพื่อสร้างเป้าหมายในชีวิต
5 ขั้นตอน วางแผนการเงินระยะยาว เมื่อไม่รู้ว่าวิกฤตจะจบเมื่อไร
Created with