3 วิธีพัฒนาตนเองในยุคดิจิทัล ดิสรัปชัน เมื่อการเพิ่มทักษะไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด

เมื่อสิ่งที่เรียนมาใช้ไม่ได้กับงานที่ทำ กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วในยุคดิจิทัล ดิสรัปชัน (Digital Disruption) ที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแทบตลอดเวลา คนจึงต้องพัฒนาทักษะอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้อยู่รอดในสายงานที่ทำ หรือเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้

ปัจจุบันเทคโนโลยีอย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (AI), แมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) และ ระบบอัตโนมัติ (Automation) ถูกนำเข้ามาใช้มากขึ้นในหลายอุตสาหกรรม ถูกนำมาใช้แทนแรงงานมนุษย์ ในสิ่งที่ต้องทำซ้ำๆ เป็นการลดต้นทุนในระยะยาว คนจึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้ทำงานที่แตกต่างจากเดิมได้

สิ่งที่จะตอบคำถามอย่างชัดเจนที่สุดคือ เมื่อบริษัทประกาศหาพนักงาน เราก็จะเริ่มเห็นความสามารถใหม่ๆ ที่ในสมัยก่อนเราไม่เคยเห็น ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่ LinkedIn ได้รวบรวมสกิลที่บริษัทต้องการมากที่สุดในปี 2020 ไว้ดังนี้

Soft Skills ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด 5 อันดับ
1.คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) คนที่สามารถแก้ไขปัญหาและงานอย่างสร้างสรรค์ในทุกบทบาททางธุรกิจ ตั้งแต่วิศวกรรมซอฟต์แวร์ไปจนถึงทรัพยากรบุคคล มุ่งเน้นที่การสร้างเสริมความสามารถในการนำแนวคิดใหม่ๆ มาใช้

2.ความสามารถในการโน้มน้าวชักจูง (Persuasion) บุคคลที่สามารถอธิบาย “สาเหตุ” ได้ เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ให้ขัดเกลาความสามารถในการสื่อสารความคิดอย่างมีประสิทธิภาพ และชักชวนเพื่อนร่วมงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ทำตามผู้นำ

3.การทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration) ทีมที่มีประสิทธิภาพสูง เรียนรู้จุดแข็งของตัวเอง สามารถเสริมความแข็งแกร่งของเพื่อนร่วมงานเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้

4.ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) เพราะสิ่งเดียวที่คงที่ในชีวิต และในธุรกิจ คือการเปลี่ยนแปลง บริษัทต้องการคนที่มีทัศนคติเชิงบวกและความเป็นมืออาชีพที่เปิดกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ตึงเครียด

5.ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) ความสามารถในการรับรู้ ประเมิน และตอบสนองต่ออารมณ์ของตัวเองและอารมณ์ของผู้อื่น
Hard Skills ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด 10 อันดับ
1.Blockchain เป็นตำแหน่งที่ยังมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับธุรกิจที่เกิดใหม่

2.Cloud Computing คนที่สามารถขับเคลื่อนสถาปัตยกรรมทางเทคนิค การออกแบบ และการส่งมอบระบบคลาวด์

3.Analytical Reasoning ทักษะด้านการวิเคราะห์เชิงเหตุผลและการตัดสินใจด้านกลยุทธ์

4.Artificial Intelligence ทักษะด้านการใช้งานปัญญาประดิษฐ์

5.UX Design ทักษะด้านการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้

6.Business Analysis คนที่มีความสามารถวิเคราะห์ธุรกิจได้อย่างดี

7.Affiliate Marketing นักการตลาดแบบพันธมิตร ใช้ประโยชน์จากการเป็นหุ้นส่วนของบริษัทหรือผู้มีอิทธิพลที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจง

8.Sales สามารถจัดการทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจกระบวนการขาย ทำงานร่วมกับพันธมิตรข้ามสายงาน และขายในระดับสูงสุดของธุรกิจ

9.Scientific Computing นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ทักษะต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ข้อมูล วิศวกร และสถาปนิกซอฟต์แวร์ และอื่นๆ

10.Video Production การผลิตวิดีโอยังคงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบริษัทต่างๆ ในยุคที่เทรนด์ของคอนเทนต์วิดีโอเติบโตอย่างรวดเร็ว
ต้องพัฒนาตนเองอย่างไรให้เข้ากับความต้องการของงานในยุคดิจิทัล ดิสรัปชัน
เมื่อรู้แล้วว่าความต้องการของตลาดเปลี่ยนไปอย่างไร ก็ถึงเวลาที่จะต้องหันมามองตัวเองว่า เรายังขาดทักษะอะไร เราสามารถเรียนทักษาด้านไหนเพิ่มได้ทันที และจะเสริมทักษะตัวยวิธีไหน ในบทความนี้ SHiFT Your Future ขอแนะ 3 แนวทางการพัฒนาตนเอง ที่ทำได้ไม่ยาก เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่รอดในยุคดิจิทัล ดิสรัปชัน ได้

1.เรียนรู้งานใหม่ในบริษัท

การพัฒนาทักษะตนเองนั้น สามารถทำได้ทั้งการเรียนรู้งานใหม่ๆ ภายในองค์กร เรียนรู้จากการปฎิบัติงานจริง การเริ่มโครงการใหม่ๆ เช่น พนักงานขายเรียนรู้วิธีการเข้าถึงลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ นักการตลาดมองหาวิธีทำการตลาดรูปใหม่ๆ โดยใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยให้รู้จักลูกค้ามากขึ้น ซึ่งการปรับวิธีการทำงานลักษณะนี้สามารถทำไปเรียนรู้ไปในเวลาเดียวกันได้ และคอยประเมินผลงานเป็นระยะ

นอกจากนี้ยังสามารถให้แต่ละแผนก ผลัดกันให้ความรู้ใหม่ๆ แลกเปลี่ยนทักษะกัน เพื่อให้พนักงาน 1 คน สามารถทำงานได้หลากหลายมากขึ้น

2.ศึกษาผ่านงานสัมมนา

การศึกษาผ่านงานสัมมนา หรือศึกษาดูงานตามหน่วยงานต่างๆ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เราได้เรียนรู้นวัตกรรม หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งบริษัทจะต้องส่งพนักงานออกไปหาความรู้นอกองค์กรเป็นครั้งคราว และให้พนักงานที่ออกไปดูงานมานั้น นำสิ่งที่ได้รับมาพัฒนาองค์กร และส่งต่อความรู้ให้เพื่อนร่วมงาน

3.ศึกษาด้วยตนเองหลังเวลางาน

การศึกษาด้วยตนเองเป็นวิถีของคนที่มีใจรักจะพัฒนาตนเอง ซึ่งสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น

-การหาความรู้ใหม่ๆ ในอินเทอร์เน็ต ทั้งในและต่างประเทศ นำความสำเร็จจากองค์กรอื่นๆ มาปรับใช้
-การอ่านหนังสือ ทั้งที่เกี่ยวข้องการอาชีพที่ทำและการอ่านเพื่อเพิ่มความรู้ใหม่
-การลงคอร์สเรียน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนในสมัยนี้นิยมใช้มากขึ้น เนื่องจากคอร์สเรียนออนไลน์นั้นสามารถเข้าถึงได้ง่าย ได้ความรู้ตรงจุด และสามารถเลือกเวลาเรียนได้ตามใจชอบ

สุดท้ายนี้ การพัฒนาตนเองจะสำเร็จได้ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ จะต้องมี Mindset หรือแนวความคิดที่จะพัฒนาตัวเอง และทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ดิสรัปชัน เพราะการเพิ่มทักษะไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางรอดสำหรับทุกคน

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทำไมการเรียนด้วย LMS ถึงมีประสิทธิภาพมากกว่าการเรียนออนไลน์ทั่วไป
Remote Working จะยังเป็นเทรนด์ต่อไป แม้ผ่านวิกฤตโควิด
Created with