5 คำถามกับ ก๊วง เสรี | Internet Marketing สร้างแผนสองให้ชีวิตด้วยธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต
ถ้าให้เดา เวลามีใครสักคนมาชวนคุณทำธุรกิจผ่านอินเตอร์เน็ต คำที่คุณจะได้ยินแน่ ๆ ก็คือ งานสบาย รายได้ดี จริงมั้ย?
แต่คุณ ก๊วง เสรี วรเดชจำเริญ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวง IM หรือ Internet Marketing ระดับโลก กลับบอกเราว่า เขาไม่อยากมาขายฝันใครคิดว่า จะได้ทำงานสบาย รายได้ดี แม้เขาจะยืนยันว่า ถ้ารู้หลักการตลาด และหลักการเดียวกับที่เขาเปิดคอร์สสอนมานานหลายปีแล้ว คุณจะทำรายได้ดีในระดับที่คุณคาดไม่ถึงแน่ ๆ แต่เขาก็ย้ำกับเราอย่างหนักแน่นเช่นกันว่า แต่คุณต้องลงทุนในการเรียนรู้ และทุ่มเทในช่วงเริ่มต้นจริง ๆ
เหมือนที่เขาทำงานหนักในช่วงแรก เพื่อที่วันนี้ เขาจะกลายเป็นคน ทำงานน้อยมาก แต่มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวแบบไม่เดือดร้อน
คุณก๊วง เป็นเจ้าของเว็บไซต์และชุมชนออนไลน์ที่เรียกว่า Internet Marketing Thailand เป็นเจ้าของหนังสือแปลขายดีอย่าง Launch (เปิดตัวให้แรง ปล่อยของให้ปัง – สูตรลับทำตลาดออนไลน์) และ เป็นคนไทยคนเดียวที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากสินค้าออนไลน์ จนเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Clickbank เชิญไปเล่าประสบการณ์มาแล้ว
คำที่คุณเคยได้ยินเช่น Affiliate marketing Search engine optimization (SEO) Email marketing เหล่านี้ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ Internet marketing ทั้งนั้น รวมทั้งการขายของบนอินเตอร์เน็ต เช่น สินค้าแบบจับต้องได้ หรือ สินค้าแบบ Digital product ก็ตาม
การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต จึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน นับแต่โลกรู้จักกับอินเตอร์เน็ตนั่นแหละ เพราะบนโลกออนไลน์ก็เป็นเหมือนตลาดโลก ที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้คุณได้ไม่รู้จบ เพราะมีลูกค้ามหาศาลรอคุณอยู่ ขอแค่มีวิธีและแน่นอน มีวิชา วันนี้เราจึงเชิญคุณก๊วง เสรี มาบอกเคล็ดวิชานี่คุณควรรู้ ก่อนจะเข้าสู่โลกของการทำธุรกิจผ่านอินเตอร์เน็ตในอนาคต
แต่คุณ ก๊วง เสรี วรเดชจำเริญ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวง IM หรือ Internet Marketing ระดับโลก กลับบอกเราว่า เขาไม่อยากมาขายฝันใครคิดว่า จะได้ทำงานสบาย รายได้ดี แม้เขาจะยืนยันว่า ถ้ารู้หลักการตลาด และหลักการเดียวกับที่เขาเปิดคอร์สสอนมานานหลายปีแล้ว คุณจะทำรายได้ดีในระดับที่คุณคาดไม่ถึงแน่ ๆ แต่เขาก็ย้ำกับเราอย่างหนักแน่นเช่นกันว่า แต่คุณต้องลงทุนในการเรียนรู้ และทุ่มเทในช่วงเริ่มต้นจริง ๆ
เหมือนที่เขาทำงานหนักในช่วงแรก เพื่อที่วันนี้ เขาจะกลายเป็นคน ทำงานน้อยมาก แต่มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวแบบไม่เดือดร้อน
คุณก๊วง เป็นเจ้าของเว็บไซต์และชุมชนออนไลน์ที่เรียกว่า Internet Marketing Thailand เป็นเจ้าของหนังสือแปลขายดีอย่าง Launch (เปิดตัวให้แรง ปล่อยของให้ปัง – สูตรลับทำตลาดออนไลน์) และ เป็นคนไทยคนเดียวที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากสินค้าออนไลน์ จนเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Clickbank เชิญไปเล่าประสบการณ์มาแล้ว
คำที่คุณเคยได้ยินเช่น Affiliate marketing Search engine optimization (SEO) Email marketing เหล่านี้ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ Internet marketing ทั้งนั้น รวมทั้งการขายของบนอินเตอร์เน็ต เช่น สินค้าแบบจับต้องได้ หรือ สินค้าแบบ Digital product ก็ตาม
การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต จึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน นับแต่โลกรู้จักกับอินเตอร์เน็ตนั่นแหละ เพราะบนโลกออนไลน์ก็เป็นเหมือนตลาดโลก ที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้คุณได้ไม่รู้จบ เพราะมีลูกค้ามหาศาลรอคุณอยู่ ขอแค่มีวิธีและแน่นอน มีวิชา วันนี้เราจึงเชิญคุณก๊วง เสรี มาบอกเคล็ดวิชานี่คุณควรรู้ ก่อนจะเข้าสู่โลกของการทำธุรกิจผ่านอินเตอร์เน็ตในอนาคต
1.อยากให้คุณก๊วง เล่าที่มาที่ไป ก่อนจะเข้ามาสนใจเรื่องการทำธุรกิจออนไลน์
ผมเริ่มต้นทำงานประจำเป็นโปรแกรมเมอร์ เส้นทางชีวิตก็ไม่มีอะไรมาก ทำงานเหมือนคนทั่วไปเลย จนวันหนึ่งอยากเป็นเจ้าของกิจการ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง เลยไปเปิดบริษัทผลิตซอฟท์แวร์ร่วมกับเพื่อนๆ รับงานเขียนโปรแกรมจริงจัง ถามว่ารายได้ดีมั้ย ก็ดีนะครับ รับงานกับหน่วยงานราชการ ก็ได้เงินหลักสิบล้าน แต่ว่าพอทำไปนาน ๆ มันรู้สึกว่าอาจจะไม่ใช่ชีวิตในแบบที่เราต้องการ คือมันได้เงินนะ แต่ทำงานหนักกว่างานประจำอีก บางคืนทำเอกสารจนถึงตี 4 ตี 5 เลยมองหางานอย่างอื่น
คิดว่าได้เงินน้อยกว่าเดิมก็ไม่เป็นไร แต่อยากได้เวลาที่มากกว่างานประจำ เพราะเราไม่สามารถทำงานหนักแบบนี้ได้ตลอดชีวิต ตอนนั้นก็ไปเจองานพวกหารายได้เสริมผ่านอินเตอร์เน็ต มันก็เป็นส่วนหนึ่งของ Internet marketing นั่นแหละ ผมหาทางทำทุกอย่าง เรียนรู้ทุกเรื่อง รับปั่นเว็บ ผมยังทำเลย คือสร้างเว็บแล้วมาทำ SEO (Search Engine Optimization) และทำโฆษณาผ่านเน็ต ก็ได้เงินมาพอสมควร แต่ผมว่ามันก็แทบไม่ต่างจากการทำธุรกิจตัวเอง
คืออาจจะได้เงินเร็วแต่มันก็ทำได้ระยะสั้นๆ และใช้เวลาในการทำงานนาน ต้องทำวนไปวนมา ถ้าหยุดทำ เงินก็หยุดไปด้วย แล้วตอนหลังระบบของกูเกิลมาจัดการเก็บเว็บปั่นพวกนี้ รายได้ก็จะกลายเป็นศูนย์ แล้วก็เหมือนเริ่มทำงานใหม่ตั้งแต่ศูนย์ ก็เลยต้องหาอย่างอื่นทำอีก แต่ตอนนั้นเริ่มจับทางได้แล้วว่า เราต้องขายของที่สร้างคุณค่าให้คนอื่นด้วยถึงจะขายได้
ผมก็เลยเริ่มสิ่งที่ถนัดคือ เริ่มเขียนซอฟต์แวร์ขายให้ต่างประเทศ เช่น ทำพวกปลั๊กอิน ให้ WordPress ใช้เวลาทำประมาณ 7 วัน รายได้ที่เกิดจากตัวนี้เป็นหลักล้าน มันก็ทำให้เปิดหูเปิดตาว่า ทำสินค้าตัวเล็กก็ได้นะ ถ้ากลุ่มเป้าหมายเรามันใหญ่พอ เช่น ถ้าเราจับตลาดต่างประเทศ การทำเงินล้านก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสินค้าของเรา มันเป็นซอฟท์แวร์ที่ใช้แก้ปัญหาให้เราได้ เราก็เลยคิดว่า เราเอาไปขายคนอื่นบ้างดีกว่า ก็เลยเริ่มรู้ว่าแล้วว่า เออ ซอฟต์แวร์ มันทำเงินได้ เพราะไปจับปัญหาคนอื่นออกมา แล้วหาทางแก้
ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับสินค้าดิจิตัลอื่น ๆ ที่ผมทำต่อมาคืออีบุ๊ก คอร์สเรียนออนไลน์ สิ่งเหล่านี้ทำเงินได้หมด ถ้าเรานำเสนอเนื้อหาที่มีคุณค่า หรือแก้ปัญหาที่คนอื่นกำลังเจอได้จริง ๆ
2.พอจะยกตัวอย่างได้มั้ยว่า มีสินค้าที่เป็น Digital product ตัวไหนที่เกิดจากการจับจุดถูกว่าคนมีปัญหาอะไร
ช่วงแรก ๆ ผมก็สำรวจว่าสินค้าอะไรบ้างที่คนให้ความสนใจ เชื่อมั้ย ผมใช้เครื่องมือค้นหาของกูเกิลนี่แหละ ค้นไปเจอว่าคนอยากรู้เรื่องการฝึกสุนัข หรือ Dog training คือคนค้นหาเรื่องนี้เยอะมาก แต่เราไม่มีความรู้เรื่องนี้มาก่อน เราแค่รู้ว่ามันมีช่องว่างตรงนี้ ผมก็เลยไปบรีฟกับนักเขียนต่างประเทศ เพื่อให้เขาเขียนเป็น Ghostwriter ให้ ซึ่งมันก็มีแพลตฟอร์มมากมายที่รวมแหล่งฟรีแลนซ์ทุกประเภท ผมก็เข้าไปค้นหาตรงนั้นแหละ แล้วให้เขาเขียนเป็นอีบุ๊กมาให้เรา
พอได้หนังสือมา เราก็มาเขียน Sale page เขียนคำโฆษณาดี ๆ แล้วก็ขาย เฉพาะเรื่องอีบุ๊กนี่ผมทำเกือบ 100 หัวข้อ ด้วยการเสิร์ชหากูเกิลนี่แหละว่าอะไรอยู่ในความสนใจของคนบ้าง แล้วก็ใช้วิธีจ้างคนอื่นเขียน วิธีนี้มีข้อเสียเหมือนกัน คือผมแค่เจอตลาดว่าคนสนใจอะไร แต่ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นจริง ๆ พอลูกค้ามีปัญหา ผมก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ การทำในสิ่งที่ไม่ใช่ความเชี่ยวชาญก็เลยทำเงินได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่หลายคนทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด รู้จริง คนเหล่านี้ก็ยังทำรายได้จากการขายความรู้ของเขาได้อยู่นะ
นอกจากนั้นผมก็ทำสินค้าดิจิตัลตัวอื่น ๆ ด้วย เช่น ซอฟท์แวร์ ที่ยังสามารถทำเงินให้ผมมาจนถึงทุกวันนี้
3.สินค้าอะไร ประเภทไหน ที่ทำรายได้ให้คุณจนถึงวันนี้
ต้องเริ่มเล่าก่อนว่า เมื่อก่อนผมเขียนซอฟท์แวร์แล้วขาย WordPress หลักการก็คือมันจะขอให้คุณกรอกอีเมลในบล็อกที่คุณเข้าไป เพื่อให้อีบุ๊กหรือบทความพิเศษต่าง ๆ เพราะสมัยก่อน ต่างประเทศเขาจะเน้นเก็บอีเมล คือถ้าเราไปดูบทความต่างประเทศเราจะเห็นช่องขอชื่อ ขออีเมลโผล่ขึ้นมาเสมอ คนอ่านเสมอ ซึ่งย้อนกลับไปสมัยนั้น ที่คนเล่น WordPress ใหม่ๆ มันไม่มี ปลั๊กอิน หรือเครื่องมือช่วยที่จะทำให้มันเก็บชื่ออีเมลได้ง่าย ผมทำซอฟต์แวร์ไปช่วยตรงนี้ ปังเลย พอได้หลักการตัวนี้ ก็เลยเกิดสิ่งที่เรียกว่า การจัดเก็บ List ของอีเมลต่างๆ คุณก็จะได้ชื่อ ลูกค้า บริษัท และรายละเอียดต่างๆ ที่เขามี ผมก็เก็บมาสร้างความสัมพันธ์และขายของไปเรื่อย ๆ ให้กับคนที่เขาสนใจสินค้าของผม ซึ่งมีทั้งการพัฒนาสินค้าเอง เอาสินค้าของคนอื่นมาขายแล้วกินค่าคอมมิชชั่น หรือหลัก Affiliate marketing นั่นเอง หลักการเรื่องการทำ List นี่เองที่ทำรายได้ให้ผมอย่างยั่งยืนมาจนถึงทุกวันนี้
4.จุดเปลี่ยน หรือ Moment of Shift ที่คุณคิดว่า ทำให้คุณเติบโตและประสบความสำเร็จในด้าน Internet marketing อย่างจริงจัง
ด้วยความที่ผมไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย ไม่มีระบบความรู้อะไรเหมือนคนทำการตลาดอื่น ๆ ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ การลองผิดลองถูก แล้วพอผมสนใจเรื่อง Internet marketing อย่างจริงจัง ผมก็เริ่มหาคนสอน เริ่มดูคอร์ส ออนไลน์ที่มีผู้เชี่ยวชาญมาสอน และผมถูกหลอก (หัวเราะ) คือบอกเลยครับว่า หมดเงินกับการไปเรียนของพวกที่เรียกตัวเองว่ากูรูการตลาดอะไรเหล่านี้ร่วม 5-6 แสน เพราะคอร์สของกูรูพวกนี้ราคาแรงมาก
แต่ว่าต้องบอกตรงๆ เลยว่า สิ่งได้เรียนรู้คือ 90% ของคนเหล่านี้คือตัวปลอม วิธีที่เขาใช้โฆษณาตัวเองก็แบบที่เราเคยเห็นเลยเช่น เช่ารถ เช่าแมนชั่น มาถ่ายรูปลง Sale page เอาเงินสดมาวางเป็นฟ่อนๆ คือขายฝันมากไปหน่อย แต่จุดเปลี่ยนสุดๆ ของผมคือ ผมไปเจอคอร์สของคนมาเลย์ ราคาถูกมากจนไม่น่าเชื่อว่าเนื้อหาข้างในจะดีมาก (หัวเราะ)
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดก็จ่ายไปประมาณ 27 เหรียญครับ ประมาณ 1,000 บาท แต่ข้างในจะสอนวิธีการทำเงินจากอินเตอร์เน็ตในระยะยาวแบบไม่ขายฝัน สอนหลักการที่ใช้ได้จริงเลย พอผมเจอหลักการที่เข้าใจแล้ว ผมลงต่อ คราวนี้เสียเงินไปอีกเยอะมาก เพื่อจะได้บินไปเรียนกับเขาตัวต่อตัว เหมือนให้เขาเป็นเมนเทอร์ให้เลย ถามว่าอะไรทำให้กล้าจ่ายเงินไปหลายแสนเพื่อเรียนกับเขา เพราะเราเรียนตอนคอร์ส 27 เหรียญแล้วมันได้ผล ก็เลยเรียนลึกลงไปอีก
ผมยอมจ่ายหรือลงทุนกับการเรียนรู้เยอะมาก เพราะเรารับความเสี่ยงได้ ผมยอมเสี่ยงที่จะกระโดดออกจากจุดที่ผมไม่ได้อยากอยู่ครับ นั่นคือการทำงานหนัก หาเงินให้ได้เดือนต่อเดือน วันต่อวันไปเรื่อย ๆ ถ้าผมไม่อยากอยู่ตรงนี้ ผมก็ต้องเสี่ยงที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ครับ ถ้าไม่เสี่ยง มันก็ไม่ได้ออกมาสักที และหลังจากนั้น ผมก็คิดว่า ผมมาถูกทางกับวิชา Internet marketing เพราะผมทำรายได้จากมันได้จริงๆ จนในที่สุด ก็มีแนวทางของตัวเองและเปิดสอนมาแล้วหลายรุ่นครับ
5.คอร์สที่คุณจะมาสอนที่ SHiFT ACADEMY เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และมีความคาดหวังกับคนที่มาเรียนยังไงบ้าง
ความคาดหวังคือ อยากให้คนที่มาเรียนได้สร้างอาชีพ สร้างธุรกิจ และไม่ต้องยึดติดกับงานประจำ การเจอวิกฤติในชีวิตไม่ว่าจะเป็นโควิด หรือการถูก Disrupt อะไรหลายๆ อย่าง มันยิ่งชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า งานประจำทุกวันนี้ แทบจะเป็นเรื่องไม่แน่นอนอีกต่อไปแล้ว อีกอย่างผมอยากจะสื่อสารในวงกว้างด้วยว่า มันมีงานที่ทำให้คุณหารายได้จากอินเตอร์เน็ตและมันสามารถแทนที่รายได้จากงานประจำได้เลย แล้วความดีงามของมันก็คือระบบหลังบ้าน ที่คุณสามารถทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวได้ อย่างผมคือ ทำคนเดียว ไม่มีทีมงาน ผมตัวเบามาก และรายได้ก็ยังคงมีอยู่แม้ว่าผมจะไม่ได้ทำอะไรแล้ว
เพราะมันคือระบบแบบ Automated business ที่คุณแค่ทำงานหนักในการสร้างระบบ สร้างคุณค่าของสินค้า แล้วหลังจากนั้นมันจะทำงานไปโดยอัตโนมัติ ทุกวันนี้ต่อให้ยอดตกลงมาเกือบ 5% ผมก็ยังอยู่ได้นะ เพราะผมไม่มีต้นทุนอะไร อันนี้คือความดีงามมากสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้อยากมีธุรกิจใหญ่โตมากมาย แต่อยากมีเวลาให้ตัวเองและครอบครัวมากขึ้น
คอร์สนี้ผมจะสอนเน้นหนักไปที่การหาไอเดียการขาย การสร้างระบบขายแบบอัติโนมัติ ทำระบบหลังบ้านให้ดี เขียนโฆษณายังไงให้ขายได้ ให้คนกดซื้อสินค้าหรือซื้อคอร์สทันที ในกรณีที่คุณทำคอร์สขาย สิ่งเหล่านี้คือหลัก Direct response คือปิดการขายได้เร็ว มีรายได้เร็ว ยิง ads ไปแล้วต้องได้ผลลัพธ์กลับมาเลย จะมีวิธีเช็คยังไง ผมจะสอนให้เขาสร้างธุรกิจของตัวเองได้ และเปลี่ยนความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Internet marketing ว่ามันมีวิธีที่ได้ผลมากกว่าที่คุณคิดและเป็นวิธีที่ผมใช้เวลาพิสูจน์มาแล้วหลายปี
เพิ่มโอกาส เพิ่มรายได้ด้วยการเรียนต่อด้าน Automated Business ที่เน้นหนักเรื่องการตลาดออนไลน์แบบช่วยเปลี่ยนวิธีทำธุรกิจจากหน้ามือเป็นหลังมือกับหลักสูตรพิเศษ ที่คุณก๊วง เสรี คิดค้นมาให้กับ Shift Academy โดยเฉพาะ ดูรายละเอียดคอร์สเต็มๆ ได้ที่ www.shiftacademy.co
ขอขอบคุณ CSO ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการสัมภาษณ์ http://www.csothailand.co.th/
ผมเริ่มต้นทำงานประจำเป็นโปรแกรมเมอร์ เส้นทางชีวิตก็ไม่มีอะไรมาก ทำงานเหมือนคนทั่วไปเลย จนวันหนึ่งอยากเป็นเจ้าของกิจการ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง เลยไปเปิดบริษัทผลิตซอฟท์แวร์ร่วมกับเพื่อนๆ รับงานเขียนโปรแกรมจริงจัง ถามว่ารายได้ดีมั้ย ก็ดีนะครับ รับงานกับหน่วยงานราชการ ก็ได้เงินหลักสิบล้าน แต่ว่าพอทำไปนาน ๆ มันรู้สึกว่าอาจจะไม่ใช่ชีวิตในแบบที่เราต้องการ คือมันได้เงินนะ แต่ทำงานหนักกว่างานประจำอีก บางคืนทำเอกสารจนถึงตี 4 ตี 5 เลยมองหางานอย่างอื่น
คิดว่าได้เงินน้อยกว่าเดิมก็ไม่เป็นไร แต่อยากได้เวลาที่มากกว่างานประจำ เพราะเราไม่สามารถทำงานหนักแบบนี้ได้ตลอดชีวิต ตอนนั้นก็ไปเจองานพวกหารายได้เสริมผ่านอินเตอร์เน็ต มันก็เป็นส่วนหนึ่งของ Internet marketing นั่นแหละ ผมหาทางทำทุกอย่าง เรียนรู้ทุกเรื่อง รับปั่นเว็บ ผมยังทำเลย คือสร้างเว็บแล้วมาทำ SEO (Search Engine Optimization) และทำโฆษณาผ่านเน็ต ก็ได้เงินมาพอสมควร แต่ผมว่ามันก็แทบไม่ต่างจากการทำธุรกิจตัวเอง
คืออาจจะได้เงินเร็วแต่มันก็ทำได้ระยะสั้นๆ และใช้เวลาในการทำงานนาน ต้องทำวนไปวนมา ถ้าหยุดทำ เงินก็หยุดไปด้วย แล้วตอนหลังระบบของกูเกิลมาจัดการเก็บเว็บปั่นพวกนี้ รายได้ก็จะกลายเป็นศูนย์ แล้วก็เหมือนเริ่มทำงานใหม่ตั้งแต่ศูนย์ ก็เลยต้องหาอย่างอื่นทำอีก แต่ตอนนั้นเริ่มจับทางได้แล้วว่า เราต้องขายของที่สร้างคุณค่าให้คนอื่นด้วยถึงจะขายได้
ผมก็เลยเริ่มสิ่งที่ถนัดคือ เริ่มเขียนซอฟต์แวร์ขายให้ต่างประเทศ เช่น ทำพวกปลั๊กอิน ให้ WordPress ใช้เวลาทำประมาณ 7 วัน รายได้ที่เกิดจากตัวนี้เป็นหลักล้าน มันก็ทำให้เปิดหูเปิดตาว่า ทำสินค้าตัวเล็กก็ได้นะ ถ้ากลุ่มเป้าหมายเรามันใหญ่พอ เช่น ถ้าเราจับตลาดต่างประเทศ การทำเงินล้านก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสินค้าของเรา มันเป็นซอฟท์แวร์ที่ใช้แก้ปัญหาให้เราได้ เราก็เลยคิดว่า เราเอาไปขายคนอื่นบ้างดีกว่า ก็เลยเริ่มรู้ว่าแล้วว่า เออ ซอฟต์แวร์ มันทำเงินได้ เพราะไปจับปัญหาคนอื่นออกมา แล้วหาทางแก้
ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับสินค้าดิจิตัลอื่น ๆ ที่ผมทำต่อมาคืออีบุ๊ก คอร์สเรียนออนไลน์ สิ่งเหล่านี้ทำเงินได้หมด ถ้าเรานำเสนอเนื้อหาที่มีคุณค่า หรือแก้ปัญหาที่คนอื่นกำลังเจอได้จริง ๆ
2.พอจะยกตัวอย่างได้มั้ยว่า มีสินค้าที่เป็น Digital product ตัวไหนที่เกิดจากการจับจุดถูกว่าคนมีปัญหาอะไร
ช่วงแรก ๆ ผมก็สำรวจว่าสินค้าอะไรบ้างที่คนให้ความสนใจ เชื่อมั้ย ผมใช้เครื่องมือค้นหาของกูเกิลนี่แหละ ค้นไปเจอว่าคนอยากรู้เรื่องการฝึกสุนัข หรือ Dog training คือคนค้นหาเรื่องนี้เยอะมาก แต่เราไม่มีความรู้เรื่องนี้มาก่อน เราแค่รู้ว่ามันมีช่องว่างตรงนี้ ผมก็เลยไปบรีฟกับนักเขียนต่างประเทศ เพื่อให้เขาเขียนเป็น Ghostwriter ให้ ซึ่งมันก็มีแพลตฟอร์มมากมายที่รวมแหล่งฟรีแลนซ์ทุกประเภท ผมก็เข้าไปค้นหาตรงนั้นแหละ แล้วให้เขาเขียนเป็นอีบุ๊กมาให้เรา
พอได้หนังสือมา เราก็มาเขียน Sale page เขียนคำโฆษณาดี ๆ แล้วก็ขาย เฉพาะเรื่องอีบุ๊กนี่ผมทำเกือบ 100 หัวข้อ ด้วยการเสิร์ชหากูเกิลนี่แหละว่าอะไรอยู่ในความสนใจของคนบ้าง แล้วก็ใช้วิธีจ้างคนอื่นเขียน วิธีนี้มีข้อเสียเหมือนกัน คือผมแค่เจอตลาดว่าคนสนใจอะไร แต่ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นจริง ๆ พอลูกค้ามีปัญหา ผมก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ การทำในสิ่งที่ไม่ใช่ความเชี่ยวชาญก็เลยทำเงินได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่หลายคนทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด รู้จริง คนเหล่านี้ก็ยังทำรายได้จากการขายความรู้ของเขาได้อยู่นะ
นอกจากนั้นผมก็ทำสินค้าดิจิตัลตัวอื่น ๆ ด้วย เช่น ซอฟท์แวร์ ที่ยังสามารถทำเงินให้ผมมาจนถึงทุกวันนี้
3.สินค้าอะไร ประเภทไหน ที่ทำรายได้ให้คุณจนถึงวันนี้
ต้องเริ่มเล่าก่อนว่า เมื่อก่อนผมเขียนซอฟท์แวร์แล้วขาย WordPress หลักการก็คือมันจะขอให้คุณกรอกอีเมลในบล็อกที่คุณเข้าไป เพื่อให้อีบุ๊กหรือบทความพิเศษต่าง ๆ เพราะสมัยก่อน ต่างประเทศเขาจะเน้นเก็บอีเมล คือถ้าเราไปดูบทความต่างประเทศเราจะเห็นช่องขอชื่อ ขออีเมลโผล่ขึ้นมาเสมอ คนอ่านเสมอ ซึ่งย้อนกลับไปสมัยนั้น ที่คนเล่น WordPress ใหม่ๆ มันไม่มี ปลั๊กอิน หรือเครื่องมือช่วยที่จะทำให้มันเก็บชื่ออีเมลได้ง่าย ผมทำซอฟต์แวร์ไปช่วยตรงนี้ ปังเลย พอได้หลักการตัวนี้ ก็เลยเกิดสิ่งที่เรียกว่า การจัดเก็บ List ของอีเมลต่างๆ คุณก็จะได้ชื่อ ลูกค้า บริษัท และรายละเอียดต่างๆ ที่เขามี ผมก็เก็บมาสร้างความสัมพันธ์และขายของไปเรื่อย ๆ ให้กับคนที่เขาสนใจสินค้าของผม ซึ่งมีทั้งการพัฒนาสินค้าเอง เอาสินค้าของคนอื่นมาขายแล้วกินค่าคอมมิชชั่น หรือหลัก Affiliate marketing นั่นเอง หลักการเรื่องการทำ List นี่เองที่ทำรายได้ให้ผมอย่างยั่งยืนมาจนถึงทุกวันนี้
4.จุดเปลี่ยน หรือ Moment of Shift ที่คุณคิดว่า ทำให้คุณเติบโตและประสบความสำเร็จในด้าน Internet marketing อย่างจริงจัง
ด้วยความที่ผมไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย ไม่มีระบบความรู้อะไรเหมือนคนทำการตลาดอื่น ๆ ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ การลองผิดลองถูก แล้วพอผมสนใจเรื่อง Internet marketing อย่างจริงจัง ผมก็เริ่มหาคนสอน เริ่มดูคอร์ส ออนไลน์ที่มีผู้เชี่ยวชาญมาสอน และผมถูกหลอก (หัวเราะ) คือบอกเลยครับว่า หมดเงินกับการไปเรียนของพวกที่เรียกตัวเองว่ากูรูการตลาดอะไรเหล่านี้ร่วม 5-6 แสน เพราะคอร์สของกูรูพวกนี้ราคาแรงมาก
แต่ว่าต้องบอกตรงๆ เลยว่า สิ่งได้เรียนรู้คือ 90% ของคนเหล่านี้คือตัวปลอม วิธีที่เขาใช้โฆษณาตัวเองก็แบบที่เราเคยเห็นเลยเช่น เช่ารถ เช่าแมนชั่น มาถ่ายรูปลง Sale page เอาเงินสดมาวางเป็นฟ่อนๆ คือขายฝันมากไปหน่อย แต่จุดเปลี่ยนสุดๆ ของผมคือ ผมไปเจอคอร์สของคนมาเลย์ ราคาถูกมากจนไม่น่าเชื่อว่าเนื้อหาข้างในจะดีมาก (หัวเราะ)
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดก็จ่ายไปประมาณ 27 เหรียญครับ ประมาณ 1,000 บาท แต่ข้างในจะสอนวิธีการทำเงินจากอินเตอร์เน็ตในระยะยาวแบบไม่ขายฝัน สอนหลักการที่ใช้ได้จริงเลย พอผมเจอหลักการที่เข้าใจแล้ว ผมลงต่อ คราวนี้เสียเงินไปอีกเยอะมาก เพื่อจะได้บินไปเรียนกับเขาตัวต่อตัว เหมือนให้เขาเป็นเมนเทอร์ให้เลย ถามว่าอะไรทำให้กล้าจ่ายเงินไปหลายแสนเพื่อเรียนกับเขา เพราะเราเรียนตอนคอร์ส 27 เหรียญแล้วมันได้ผล ก็เลยเรียนลึกลงไปอีก
ผมยอมจ่ายหรือลงทุนกับการเรียนรู้เยอะมาก เพราะเรารับความเสี่ยงได้ ผมยอมเสี่ยงที่จะกระโดดออกจากจุดที่ผมไม่ได้อยากอยู่ครับ นั่นคือการทำงานหนัก หาเงินให้ได้เดือนต่อเดือน วันต่อวันไปเรื่อย ๆ ถ้าผมไม่อยากอยู่ตรงนี้ ผมก็ต้องเสี่ยงที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ครับ ถ้าไม่เสี่ยง มันก็ไม่ได้ออกมาสักที และหลังจากนั้น ผมก็คิดว่า ผมมาถูกทางกับวิชา Internet marketing เพราะผมทำรายได้จากมันได้จริงๆ จนในที่สุด ก็มีแนวทางของตัวเองและเปิดสอนมาแล้วหลายรุ่นครับ
5.คอร์สที่คุณจะมาสอนที่ SHiFT ACADEMY เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และมีความคาดหวังกับคนที่มาเรียนยังไงบ้าง
ความคาดหวังคือ อยากให้คนที่มาเรียนได้สร้างอาชีพ สร้างธุรกิจ และไม่ต้องยึดติดกับงานประจำ การเจอวิกฤติในชีวิตไม่ว่าจะเป็นโควิด หรือการถูก Disrupt อะไรหลายๆ อย่าง มันยิ่งชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า งานประจำทุกวันนี้ แทบจะเป็นเรื่องไม่แน่นอนอีกต่อไปแล้ว อีกอย่างผมอยากจะสื่อสารในวงกว้างด้วยว่า มันมีงานที่ทำให้คุณหารายได้จากอินเตอร์เน็ตและมันสามารถแทนที่รายได้จากงานประจำได้เลย แล้วความดีงามของมันก็คือระบบหลังบ้าน ที่คุณสามารถทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวได้ อย่างผมคือ ทำคนเดียว ไม่มีทีมงาน ผมตัวเบามาก และรายได้ก็ยังคงมีอยู่แม้ว่าผมจะไม่ได้ทำอะไรแล้ว
เพราะมันคือระบบแบบ Automated business ที่คุณแค่ทำงานหนักในการสร้างระบบ สร้างคุณค่าของสินค้า แล้วหลังจากนั้นมันจะทำงานไปโดยอัตโนมัติ ทุกวันนี้ต่อให้ยอดตกลงมาเกือบ 5% ผมก็ยังอยู่ได้นะ เพราะผมไม่มีต้นทุนอะไร อันนี้คือความดีงามมากสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้อยากมีธุรกิจใหญ่โตมากมาย แต่อยากมีเวลาให้ตัวเองและครอบครัวมากขึ้น
คอร์สนี้ผมจะสอนเน้นหนักไปที่การหาไอเดียการขาย การสร้างระบบขายแบบอัติโนมัติ ทำระบบหลังบ้านให้ดี เขียนโฆษณายังไงให้ขายได้ ให้คนกดซื้อสินค้าหรือซื้อคอร์สทันที ในกรณีที่คุณทำคอร์สขาย สิ่งเหล่านี้คือหลัก Direct response คือปิดการขายได้เร็ว มีรายได้เร็ว ยิง ads ไปแล้วต้องได้ผลลัพธ์กลับมาเลย จะมีวิธีเช็คยังไง ผมจะสอนให้เขาสร้างธุรกิจของตัวเองได้ และเปลี่ยนความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Internet marketing ว่ามันมีวิธีที่ได้ผลมากกว่าที่คุณคิดและเป็นวิธีที่ผมใช้เวลาพิสูจน์มาแล้วหลายปี
เพิ่มโอกาส เพิ่มรายได้ด้วยการเรียนต่อด้าน Automated Business ที่เน้นหนักเรื่องการตลาดออนไลน์แบบช่วยเปลี่ยนวิธีทำธุรกิจจากหน้ามือเป็นหลังมือกับหลักสูตรพิเศษ ที่คุณก๊วง เสรี คิดค้นมาให้กับ Shift Academy โดยเฉพาะ ดูรายละเอียดคอร์สเต็มๆ ได้ที่ www.shiftacademy.co
ขอขอบคุณ CSO ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการสัมภาษณ์ http://www.csothailand.co.th/
อัปเดตคอร์สใหม่และส่วนลดคอร์สต่างๆ
Thank you!
Policy Pages
Copyright © 2022
รับสิทธิพิเศษก่อนใคร แอดไลน์ @shiftyourfuture