4 จุดต้องคิดให้ขาด ก่อนจัดอีเว้นท์ออนไลน์

  • ช่วงเวลาวิกฤติมักก่อให้เกิดนวัตกรรม ในเมื่อสถานการณ์โลกนาทีนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน นักวิเคราะห์จึงมองว่านี่ช่างเป็นช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับการยกระดับงานอีเว้นท์ออนไลน์ (Online Events) ซึ่งยังไร้น้ำหนักในสายตาทั้งผู้เข้าร่วมงาน ผู้สนับสนุน และแม้แต่ตัวผู้จัดงานเอง
  • หากแบรนด์ใดต้องการสร้างอิมแพคทางธุรกิจโดยใช้อีเว้นท์ นักการตลาดของแบรนด์นั้นจำเป็นต้องเปิดใจจินตนาการใหม่ทั้งส่วนประสบการณ์ รูปแบบงาน เนื้อหา เทคโนโลยี การบูรณาการ และแม้กระทั่งการ follow-through ทั้งหมดนี้ต้องคิดใหม่ทำใหม่เพื่อให้ได้อีเว้นท์ที่ดีกว่าเดิม
  • เบ็ดเสร็จแล้ว นักวิเคราะห์สรุปไอเดียที่ต้องตกผลึกให้ได้สำหรับการจัดอีเว้นท์ไว้คร่าวๆ 4 ประเด็น ทุกประเด็นสามารถทำได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย
____

โลกรู้ดีว่า “นักการตลาดงานอีเว้นท์” กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนใหญ่ของชีวิตแบบสายฟ้าฟาดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลายคนที่เคยจดจ่อกับ In-person event หรืองานประชุมที่รวบรวมกลุ่มคนมากมายไว้ในที่เดียวกัน กลับถูกโยกไปสร้าง “อีเว้นท์เสมือน” หรือ Virtual Events เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทำอาชีพนี้

แม้จะมีข้อจำกัดมากมาย แต่ทุกคนก็ไม่ต้องการทิ้งอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้งแบบดั้งเดิม เพราะการตลาดเชิงกิจกรรมนั้นให้ทั้งประสบการณ์เฉพาะคน การมีส่วนร่วม ข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย และภาพลักษณ์แบรนด์อีกต่างหาก

วันนี้นักการตลาดจึงต้องเฟ้นหาระบบที่สามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ โดยจะต้องเลือกระบบที่ทีมจัดอีเว้นท์จะเริ่มต้นและดำเนินการอย่างรวดเร็ว ระบบนี้ต้องมีเท็มเพลตการตลาดสำหรับการจัดกิจกรรมเสมือน ที่จะสร้างแบรนด์ได้ชัดเจน และจะต้องให้บริการทุกอย่างตั้งแต่หน้าเว็บเพจบอกรายละเอียดกิจกรรมในงานอีเว้นท์ ไปจนถึงแบบฟอร์มลงทะเบียนที่แจ้งเตือนไปยังอีเมลของผู้ร่วมงาน

นอกจากนี้ ทีมจัดอีเว้นท์ควรจะต้องสามารถฝังวิดีโอสตรีมมิ่งสดๆ ลงในหน้าเพจกิจกรรมโดยตรง เพื่อสร้างประสบการณ์อินเทอร์แอคทีฟด้วย

ดังนั้น รูปแบบของระบบออนไลน์อีเว้นท์ที่นักการตลาดส่วนใหญ่เลือกทำในขณะนี้ คือการผสานรวม “Webinar” หรือการสัมมนาผ่านเว็บเข้ากับแพลตฟอร์ม
WEBINAR man hand on table Business, coffee, Split tone WEBINAR phone

อีเว้นท์เสมือนที่มีความหลากหลายให้เป็นเนื้อเดียวกัน จุดประสงค์คือการป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกล็อกจนเหลือวิธีเดียวในการจัดกิจกรรมออนไลน์

ไอเดียเหล่านี้เป็นฐานเริ่มต้นให้อีเว้นท์สามารถสร้างประสบการณ์ และการมีส่วนร่วมซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดแอคชั่นกับแบรนด์ได้เหมือนเดิม เพียงแค่อีเว้นท์นั้นถูกจัดงานใน “โลกเสมือนจริง” เท่านั้น

เริ่มที่ความจริง
ขั้นแรกของการจะหาจุดยืนใหม่เรื่องการจัดอีเว้นท์ คือการมองที่ความเป็นจริงในปัจจุบัน  ซึ่งชัดเจนว่าวันนี้โลกต้องการแพลตฟอร์มและช่องทางในการจัดงานเพื่อให้การจัดงานออนไลน์ทำได้ดีขึ้นทุกด้าน ตอบโจทย์ทั้งการสร้างชุมชน ให้ความรู้ และทำให้ผู้ร่วมงานมีความสุข

แต่การรีบเร่งนำอีเว้นท์มาใช้แทนงานอีเวนท์แบบพบหน้ากันจริงๆ ทำให้ผู้จัดอีเว้นท์มีการบ้านชิ้นใหญ่รอให้สะสางภายในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ การบ้านข้อแรกคือ 1. อีเว้นท์นั้นจำเป็นต้องมีประสบการณ์และเหตุผลที่น่าสนใจ ไม่เพียงแค่เพื่อเข้าร่วม แต่เพื่อการมีส่วนร่วมด้วย

สิ่งที่หลายแบรนด์ทำคือการอัดแน่นปฎิทินงานสัมมนาผ่านเว็บโดยยิงอีเมลให้กลุ่มเป้าหมายโดยติดคำว่า “ไม่ควรพลาด” เอาไว้ แต่การทำแบบนี้กลับกลายเป็นการผลักผู้ชมส่วนหนึ่งออกไป เนื่องจากผู้รับอาจไม่เพียงไม่เข้าร่วม แต่ยังอาจเลือกไม่รับแบรนด์ไว้ในสายตาด้วย

การบ้านข้อ 2 คืออีเว้นท์นั้นต้องตอบเรื่องความต้องการ 3 ด้านของแบรนด์
1. ผู้ชม 2. การมีส่วนร่วม และ 3. บทสนทนา

เทรนด์อีเว้นท์ที่โลกเริ่มเห็นมากขึ้นคือการแบ่งจัดเป็นกลุ่มเล็ก เน้นการพบปะสังสรรค์อย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างเครือข่ายประสบการณ์ การบ้านข้อนี้ทำให้ทุกอีเว้นท์ต้องหาวิธีปรับขนาดของประสบการณ์ดิจิทัลให้เล็กลง และเพิ่มความใกล้ชิดมากกว่านี้

เพิ่มความสนิทสนม อารมณ์ต้องเข้มข้น
ประเด็นถัดมาที่ผู้จัดอีเว้นท์ไม่ควรมองข้าม คือการทำให้อีเว้นท์มี “ความเป็นคน” มากขึ้นและเน้นเรื่องการเพิ่มปฏิสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกว่าเดิม

ประเด็นนี้สามารถปรับที่รูปแบบ เนื้อหา และเทคโนโลยีที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นในการอินเทอร์แอคทีฟและการเพิ่มอารมณ์ให้งานอีเว้นท์นั้น

นักวิเคราะห์มองว่าเป้าหมายของการจัดงานอีเว้นท์ไม่ควรคิดแค่การจำลองอีเว้นท์ดั้งเดิมมาเป็นอีเว้นท์ดิจิทัล แต่ควรอยู่ที่การจินตนาการถึงประสบการณ์ใหม่ทั้งหมด โดยอาจมองหาแรงบันดาลใจจากแหล่งอื่น เพื่อนำไปใช้กับอีเว้นท์ออนไลน์
Appointment Agenda Reminder Personal Organizer Calendar Concept

รักษาสัญญาแล้วทำให้ได้
ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างธุรกิจ กรณีการจัดอีเว้นท์ออนไลน์ก็เช่นกัน หากงานใดสามารถสัญญาว่าผู้เข้าร่วมจะได้รับคุณค่ายิ่งใหญ่ แล้วสามารถรักษาคำมั่นนี้จนส่งมอบเป็นความจริงได้ อีเว้นท์นั้นก็จะก้าวไปอีกระดับ

แต่ถ้าทำไม่ได้ จำนวนผู้เข้าร่วมย่อมลดลง เพราะความง่ายในการคลิกออกจากงานอีเว้นท์ได้ตลอดเวลา แถมยังส่งผลกระทบในเชิงลบต่อแบรนด์

อย่าจัดแบบเดียว บนช่องทางเดียว
ประเด็นที่นักจัดอีเว้นท์ควรมองให้ขาดก็คือการทำให้อีเว้นท์จัดมากกว่า 1 ช่องทางและ 1 รูปแบบ เพราะอีเว้นท์ที่เป็นรูปแบบเดียวม้วนเดียวจบจะจำกัดประสบการณ์ ขณะเดียวกันก็ปิดกั้นเนื้อหาและการสนทนา เรียกว่าเสียชาติเกิดความเป็นอีเว้นท์ได้เลย

อีเว้นท์นั้นจะดียิ่งขึ้นเมื่อมีการขยายและรวมเข้ากับแพลตฟอร์มอื่น โดยอีเว้นท์สามารถเข้าถึงผู้เข้าร่วมและชุมชนได้ชัดเจน มีการประชุมย่อยในอีเว้นท์ใหญ่ ซึ่งการขยายกลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเดียวกัน ย่อมสามารถขยายบทสนทนาของทุกคนให้กระจายไปในช่องอื่นได้อีก

ไอเดียเหล่านี้ถือเป็นเพียงเสี้ยวเดียวของสิ่งที่เป็นไปได้ในวงการอีเว้นท์ ยังมีอีกหลายส่วนผสมที่จำเป็นในการปรุงอีเว้นท์ให้กลมกล่อมตราตรึงใจ ซึ่งหากทำได้ อีเว้นท์นั้นจะไม่น่าเบื่อชวนง่วง แต่จะช่วยให้กิจกรรมเติบโตได้แม้ในเวลาที่ยากลำบาก

ที่มา : https://martechtoday.com/uncertainty-and-chaos-an-ideal-time-for-online-events-to-get-a-makeover-242239
https://www.martechcube.com/interview-with-co-founder-and-ceo-splash-ben-hindman/
https://customerthink.com/when-will-in-person-b2b-events-come-back/
Created with