คู่มือ Venture Capital 101
Venture Capital คืออะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับการลงทุน?
แหล่งเงินทุนทางธุรกิจนั้นมาจาก 2 สิ่ง คือ การกู้ยืม และนายทุน การกู้ยืมหมายถึงการที่เราให้เงินกับใครสักคน โดยที่คนคนนั้นสัญญาว่าจะนำเงินมาคืนพร้อมกับดอกเบี้ย นายทุนหมายถึงผู้ที่ให้เงินกับใครสักคนเพื่อไปเป็นเจ้าของกิจการ Venture Capital (VC) คือเงินทุนที่มอบให้กับบริษัทที่เรามองว่ามีศักยภาพ เพื่อแลกกับการถือหุ้นในบริษัท
โครงสร้างของบริษัท Venture Capital เป็นอย่างไร?
VC ประกอบไปด้วยกลุ่มทุนที่มาจากสองส่วนหลักๆ คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (limited partners หรือ LP พูดง่ายๆ คือเป็นฝั่งนักลงทุนหรือ Investor ตัวอย่างเช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ กองทุนด้านการศึกษา บริษัทประกันภัย และบรรดานักธุรกิจ ) กับอีกส่วนคือ ห้างหุ้นส่วนสามัญ (general partners หรือ GP อดีตผู้บริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัทหรือ Founder ) เมื่อนักลงทุนเอาเงินมาลงให้กับบริษัทแล้ว ตัว Founder ก็จะมีอำนาจในการตัดสินใจใช้เงินทุนนั้นๆ ซึ่งปกติแล้ว ทุน 99% ของบริษัทล้วนมาจาก LP และมีเพียง 1% ที่มาจาก GP
บรรทัดฐานทั่วไปของอุตสาหกรรมคือ 20% ของกำไรจะเข้ากระเป๋า GP ในขณะที่อีก 80% จะเข้ากระเป๋า LP หรือผู้ลงทุน นอกจากนี้ 2% ของเงินทุนจะถูกนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ เช่น เงินเดือนของ GP และพนักงานขององค์กร ซึ่งเท่ากับว่า หากบริษัทมีเงินทุน 100 ล้านดอลลาร์ฯ เงิน 2 ล้านดอลลาร์ฯ จะเข้ากระเป๋าของ GP โดยอัตโนมัติ
แหล่งเงินทุนทางธุรกิจนั้นมาจาก 2 สิ่ง คือ การกู้ยืม และนายทุน การกู้ยืมหมายถึงการที่เราให้เงินกับใครสักคน โดยที่คนคนนั้นสัญญาว่าจะนำเงินมาคืนพร้อมกับดอกเบี้ย นายทุนหมายถึงผู้ที่ให้เงินกับใครสักคนเพื่อไปเป็นเจ้าของกิจการ Venture Capital (VC) คือเงินทุนที่มอบให้กับบริษัทที่เรามองว่ามีศักยภาพ เพื่อแลกกับการถือหุ้นในบริษัท
โครงสร้างของบริษัท Venture Capital เป็นอย่างไร?
VC ประกอบไปด้วยกลุ่มทุนที่มาจากสองส่วนหลักๆ คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (limited partners หรือ LP พูดง่ายๆ คือเป็นฝั่งนักลงทุนหรือ Investor ตัวอย่างเช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ กองทุนด้านการศึกษา บริษัทประกันภัย และบรรดานักธุรกิจ ) กับอีกส่วนคือ ห้างหุ้นส่วนสามัญ (general partners หรือ GP อดีตผู้บริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัทหรือ Founder ) เมื่อนักลงทุนเอาเงินมาลงให้กับบริษัทแล้ว ตัว Founder ก็จะมีอำนาจในการตัดสินใจใช้เงินทุนนั้นๆ ซึ่งปกติแล้ว ทุน 99% ของบริษัทล้วนมาจาก LP และมีเพียง 1% ที่มาจาก GP
บรรทัดฐานทั่วไปของอุตสาหกรรมคือ 20% ของกำไรจะเข้ากระเป๋า GP ในขณะที่อีก 80% จะเข้ากระเป๋า LP หรือผู้ลงทุน นอกจากนี้ 2% ของเงินทุนจะถูกนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ เช่น เงินเดือนของ GP และพนักงานขององค์กร ซึ่งเท่ากับว่า หากบริษัทมีเงินทุน 100 ล้านดอลลาร์ฯ เงิน 2 ล้านดอลลาร์ฯ จะเข้ากระเป๋าของ GP โดยอัตโนมัติ
Sources of capital มีอะไรบ้าง?
Type of rounds หรือ รอบการลงทุน มีอะไรบ้าง?
Venture Capital ทำงานอย่างไร?
แนวโน้มของอุตสาหกรรม Venture Capital
ขนาดของกองทุน
บริษัทชั้นนำ 20 แห่ง สร้างผลตอบแทน 95%
พูดง่ายๆ คือการกระจายผลตอบแทนจากการลงทุนใน VC นั้นกระจุกตัวอยู่ในบรรดาบริษัทที่อยู่กลุ่มบน ซึ่งสมมติง่ายๆ ว่ามีบริษัทใน VC อยู่ 1,000 บริษัท มีเพียง 2% เท่านั้นที่มีการดีลด้วย เนื่องจากมีเพียงไม่กี่บริษัทที่ไปถึงฝั่งฝันในการก้าวไปเป็นธุรกิจระดับพันล้าน ในขณะที่บริษัทอื่นๆ ต้องเผชิญกับความล้มเหลว
การกลับมาของ VC
ในปี 2013 ผลตอบแทน 10 ปีของ VC คือ 7.8% ในขณะที่ดัชนีของ S&P คือ 7.3% ส่วน Dow Jones มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 7.9% และเติบโต 13.1% จะเห็นว่า VC ไม่ใช่ค่าเฉลี่ยที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน มีคนจำนวนหนึ่งที่ได้รับผลตอบแทนมหาศาล แต่มีจำนวนมากกว่าที่จบลงด้วยการสูญเสียเงินจำนวณมหาศาล
จริงๆ แล้วเรากำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่หรือเปล่า?
ในภาพรวม ถึงแม้ว่าบริษัท IPO (Initial public offering) จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังมีจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวน IPO ในเหตุการณ์ฟองสบู่ก่อนหน้านี้
แต่สิ่งที่ต้องสนใจคือ ราคาประเมินของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นในการลงทุนทุกประเภทตั้งแต่ระดับ Seed จนถึงระดับที่สูงขึ้น อย่างที่เห็นใน Series D+ ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นเพราะมีเพียงไม่กี่บริษัทที่อยู่ในระดับนั้น ดังนั้นเพื่อให้กลุ่ม VC เกิดการแข่งขัน จึงมีการยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับหลายๆ บริษัท ซึ่งนั่นหมายถึงจำนวนเงินที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
ที่มา: https://startupsventurecapital.com/venture–capital–101–a–crash–course–ed80b0d87bd5
- Angel : นักธุรกิจที่ลงทุนโดยใช้เงินทุนของตัวเอง มักจะทำธุรกิจที่ตัวเองมีความเชี่ยวชาญ ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ค่อนข้างมีฐานะ
- Super Angel : Angel ที่เป็นประธานกรรมการบริหาร หรือผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดในบอร์ดบริหาร
- Micro Seed Fund / Accelerator : กองทุนขนาดเล็กที่ใช้ไปกับการลงทุนครั้งละน้อยๆ แต่ถี่ เพื่อแลกกับหุ้นจำนวนเล็กน้อย Accelerator มักจะเป็นตัวสนับสนุนทางธุรกิจอย่างการให้คำปรึกษา หรือคอนเนคชันทางธุรกิจ เช่น Y–Combinator, Kima Ventures, Techstars เป็นต้น
- Venture Capital : กองทุนขนาดกลางที่ลงทุนในจำนวนมากขึ้น เช่น Andreessen, Horowitz, Sequoia Capital, Google Ventures เป็นต้น
- Growth Equity : กองทุนขนาดใหญ่ที่ลงทุนจำนวนมากเพื่อขยายขนาดของธุรกิจ โดยมีตัวอย่างเด่นๆ คือ Summit Partners
Type of rounds หรือ รอบการลงทุน มีอะไรบ้าง?
- Seed: เงินทุนตั้งต้นในการสร้างโปรดักต์หรือพัฒนาโมเดลธุรกิจ
- Series A: สร้างทีม และเปิดตัวโปรดักต์
- Series B: ขยายทีม และขยายกลุ่มโปรดักต์
- Series C: ปรับขนาดของธุรกิจ
- Series D+: ขยายตัวทางภูมิศาสตร์
Venture Capital ทำงานอย่างไร?
- ผู้ประกอบการได้รับคำแนะนำจาก VC
- ผู้ประกอบการ pitching ธุรกิจกับ VC
- มี Term sheet หาก VC ต้องการจะร่วมลงทุน
- ต่อยอดทางธุรกิจ
- มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจาก VC เช่น การซื้อขายหุ้น หรือการแจ้งล้มละลาย
แนวโน้มของอุตสาหกรรม Venture Capital
ขนาดของกองทุน
- Seed funds หรือกองทุนที่มีเงินลงทุนต่ำกว่า 50 ล้านดอลลาร์ฯ โดย 67% ของจำนวนเงินทุน คือบรรทัดฐานที่ยอมรับทั่วไป (คิดเป็น 6% ของเงินดอลลาร์ฯ ทั้งหมด)
- Traditional VC คือสิ่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งกำลังลดลงทั้งปริมาณดอลลาร์ฯ และเม็ดเงินในการลงทุน
บริษัทชั้นนำ 20 แห่ง สร้างผลตอบแทน 95%
พูดง่ายๆ คือการกระจายผลตอบแทนจากการลงทุนใน VC นั้นกระจุกตัวอยู่ในบรรดาบริษัทที่อยู่กลุ่มบน ซึ่งสมมติง่ายๆ ว่ามีบริษัทใน VC อยู่ 1,000 บริษัท มีเพียง 2% เท่านั้นที่มีการดีลด้วย เนื่องจากมีเพียงไม่กี่บริษัทที่ไปถึงฝั่งฝันในการก้าวไปเป็นธุรกิจระดับพันล้าน ในขณะที่บริษัทอื่นๆ ต้องเผชิญกับความล้มเหลว
การกลับมาของ VC
ในปี 2013 ผลตอบแทน 10 ปีของ VC คือ 7.8% ในขณะที่ดัชนีของ S&P คือ 7.3% ส่วน Dow Jones มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 7.9% และเติบโต 13.1% จะเห็นว่า VC ไม่ใช่ค่าเฉลี่ยที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน มีคนจำนวนหนึ่งที่ได้รับผลตอบแทนมหาศาล แต่มีจำนวนมากกว่าที่จบลงด้วยการสูญเสียเงินจำนวณมหาศาล
จริงๆ แล้วเรากำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่หรือเปล่า?
ในภาพรวม ถึงแม้ว่าบริษัท IPO (Initial public offering) จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังมีจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวน IPO ในเหตุการณ์ฟองสบู่ก่อนหน้านี้
แต่สิ่งที่ต้องสนใจคือ ราคาประเมินของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นในการลงทุนทุกประเภทตั้งแต่ระดับ Seed จนถึงระดับที่สูงขึ้น อย่างที่เห็นใน Series D+ ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นเพราะมีเพียงไม่กี่บริษัทที่อยู่ในระดับนั้น ดังนั้นเพื่อให้กลุ่ม VC เกิดการแข่งขัน จึงมีการยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับหลายๆ บริษัท ซึ่งนั่นหมายถึงจำนวนเงินที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
ที่มา: https://startupsventurecapital.com/venture–capital–101–a–crash–course–ed80b0d87bd5
อัปเดตคอร์สใหม่และส่วนลดคอร์สต่างๆ
Thank you!
Policy Pages
Copyright © 2022
รับสิทธิพิเศษก่อนใคร แอดไลน์ @shiftyourfuture