8 เคล็ดลับฉบับผู้ประกอบการ พาธุรกิจก้าวผ่านวิกฤติ

ชีวิตของผู้ประกอบการคือชีวิตที่เหมือนการกระโดดร่มโดยไร้ร่มชูชีพ คุณต้องริเริ่ม ต้องลอง และต้องรับความเสี่ยงเอง ยิ่งในช่วงวิกฤติทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีเรื่องให้น่าตื่นเต้นไม่เว้นวันแบบนี้ ลองคิดดูว่าชีวิตของเจ้าของธุรกิจจะยากขึ้นแค่ไหน

และถ้าคุณคลิกเข้ามาอ่านบทความนี้ แสดงว่าคุณก็กำลังตกที่นั่งเดียวกันอยู่

บทความจาก Forbes นี้เรียบเรียงโดย Meeta Vengapally ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Garnysh ฟิตเนสและสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่ตั้งอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ เธอมีบทบาทที่หลากหลาย ทั้งเจ้าของธุรกิจ อินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย และยังเป็นต้นแบบของผู้หญิงที่มีพลัง ซึ่งเธอใช้อินสตาแกรมของเธอ (@meetamoment) เป็นช่องทางสร้างแรงบันดาลใจและแลกเปลี่ยนพลังบวกให้แก่ผู้ติดตามทุกคน

Meeta เข้าใจเป็นอย่างดีว่าท่ามกลางวิกฤติเช่นนี้ เจ้าของธุรกิจทุกคนกำลังตกที่นั่งลำบาก กิจการทุกชนิดทั่วโลกกำลังจะต้องผ่านบททดสอบอันใหญ่หลวง ไอเดียธุรกิจใหม่ๆ ต้องถูกพักไว้ แต่เธอเชื่อเสมอว่าอุปสรรคที่ยากลำบากมักมาพร้อมโอกาสที่หอมหวานเสมอ

วันนี้ SHiFT Your Future จึงหยิบ 8 เคล็ดลับดีๆ จาก Meeta มาฝาก เพื่อให้เราเป็นผู้ประกอบการที่เข้มแข็ง พากิจการผ่านวิกฤติ และพบกับฟ้าหลังฝนที่สวยงามกว่าเดิม 
1. อย่าหยุดทำงาน
จิตวิญญาณของผู้ประกอบการคือสิ่งที่กระตุ้นให้คุณไม่หยุดอยู่เฉยๆ ถึงแม้กิจการของคุณจะต้องเผชิญกับภาวะตกต่ำ แต่คุณไม่ควรยอมแพ้ ถ้าคุณไม่ท้อถอยแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ ต่อไปเมื่อธุรกิจของคุณฟื้นตัวแล้ว คุณอาจจะพบว่าคุณไปได้ไกลกว่าที่คาดไว้ด้วยซ้ำ และถึงแม้ว่าตอนนี้สถานการณ์อาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในบ้าน ไม่สามารถไปทำงานแบบปกติได้ แต่เชื่อเถอะว่ามันอาจจะทำให้คุณเกิดความคิดสร้างสรรค์ในอีกแง่ที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน

2. การสื่อสารคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
สื่อสารอย่างเปิดเผยและจริงใจกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกค้า หรือผู้ถือหุ้น ความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดคนได้ดีที่สุดในช่วงเวลาแบบนี้ ลองผลักดันตัวเองให้เป็นผู้นำแบบนั้น เปิดใจและให้ความเชื่อมั่นกับคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรา ถ้าคุณสามารถชี้แนะแนวทางและเป้าหมายที่ชัดเจนให้กับพวกเขาในช่วงเวลาที่สับสนแบบนี้ได้ มั่นใจได้เลยว่าเขาจะทุ่มเททำงานให้คุณมากกว่าที่ผ่านมาแน่นอน ทำให้พวกเขาคลายกังวลด้วยการให้มุมมองในแง่บวกและยืดหยุ่น พยายามสร้างความมั่นใจให้พวกเขา และใช้สื่อโซเชียลต่างๆ สื่อสารให้คนอื่นรู้ว่าตัวคุณและธุรกิจของคุณยังคงมีรากฐานที่แข็งแรง
3. มี Passion เสมอ
ธุรกิจดำเนินไปได้ส่วนหนึ่งเพราะ Passion ซึ่ง Passion คือสิ่งที่ทำให้คุณกล้าทำในเรื่องที่ดูจะเป็นไปไม่ได้ คือแรงผลักดันที่ผลักให้คุณขึ้นไปสูงกว่าที่เคย หมั่นเพิ่ม Passion ของคุณให้แข็งแกร่งและแน่วแน่ขึ้นอยู่เสมอ การอยู่บ้านช่วงนี้จะทำให้คุณมีเวลามากขึ้นในการใช้จินตนาการให้งอกเงย วาดฝันถึงภาพธุรกิจของคุณในอนาคต เติมชีวิตชีวา และลองมองในมุมที่ต่างออกไป ใช้ความฝันเป็นพรมปูทางพาธุรกิจไปสู่ทิศทางที่คุณตั้งใจไว้ เริ่มวางแผนโครงการในฝันเพื่ออนาคตตั้งแต่ตอนนี้ คุณเลือกได้ว่าจะปล่อยให้วิกฤตินี้เป็นหลุมดำหรือเป็นช่วงเวลาแห่งการฟูมฟักความสำเร็จครั้งใหม่

4. รู้ว่าอะไรที่ควบคุมได้
ตอนนี้คุณอาจจะคิดว่าไม่มีอะไรที่คุณควบคุมได้เลย แต่ในเรื่องของธุรกิจจริงๆ แล้ว มีสิ่งที่คุณควบคุมได้อยู่อีกมาก เช่น ลองทำเรื่องที่คุณเคยผัดผ่อนมาตลอดเพราะไม่มีเวลาทำ ลองวางระบบการทำงานใหม่แทนระบบเก่าที่เคยมีปัญหา หรือลองทบทวนดูว่ามีทักษะอะไรที่คุณอยากพัฒนา และเป็นผลดีกับธุรกิจอีกมั้ย อัพเดตเว็บไซต์ของบริษัท ชวนให้พนักงานไปลงเรียนคอร์สอนไลน์ต่างๆ ทบทวนแนวทางและพัฒนาการใช้โซเชียลมีเดีย เช่น สร้างเพจในอินสตราแกรมที่ยังไม่มี ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่คุณควบคุมได้แน่นอน

5. เตรียมพร้อมสำหรับภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง
  ต่อไปเมื่อกิจการต่างๆ เริ่มฟื้นตัว สิ่งหนึ่งที่จะไม่เหมือนเดิมแน่นอนคือสภาพตลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเจอไม่ว่าคุณจะขายสินค้าหรือบริการอะไรก็ตาม ‘สถานการณ์โควิด-19 จะเปลี่ยนความต้องการของผู้บริโภคไปแค่ไหน?’ ‘คุณจะทำอย่างไรให้ตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ดีขึ้นในยุคนี้?’ นี่คือคำถามที่ต้องตอบ ถ้าเริ่มคิดวางแผนตั้งแต่ตอนนี้ หลังเปิดเมืองอีกครั้ง คุณจะเร็วกว่าคนอื่นหนึ่งก้าวแน่นอน

6. ส่งต่อความห่วงใย
  ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานการณ์ข้างนอกตอนนี้น่าวิตกมาก ดังนั้นถ้าคุณมีลิสต์รายชื่อลูกค้าในอีเมล มีเฟซบุ๊คหรืออินสตาแกรม นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะโพสต์คอนเทนต์ที่แสดงถึงความห่วงใยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ส่งคำคมที่มีความหมายดีๆ หรือข้อความแสดงความห่วงใยทางอีเมลให้กับลูกค้าของคุณเป็นระยะ ห้ามเงียบหายไปเด็ดขาด ลองนึกภาพว่าถ้าคุณเป็นลูกค้าที่ได้รับอีเมลดีๆ จากเจ้าของธุรกิจ คุณจะไม่รีบกลับไปใช้บริการทันทีที่สถานการณ์ดีขึ้นเลยหรือ? ส่งความรู้สึกดีๆ ออกไปอย่างจริงใจ และเตรียมรอรับพลังบวกจากลูกค้าของคุณได้เลย
7. เพิ่มความใกล้ชิด
  ถึงแม้ว่าทุกวันนี้คุณอาจจะรู้สึกว่าสถานการณ์ทำให้คุณห่างไกลจากคนอื่นมากขึ้น แต่นี่กลับเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่จะใกล้ชิดกันมากกว่าที่ผ่านมา ลองเพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้า หรือพนักงานของคุณผ่านวิดีโอคอล เปิดกล้องแนะนำสมาชิกในครอบครัวของคุณ ลองนัดจิบกาแฟกันทาง Zoom กับคนที่คุณอยากรู้จัก การที่เราต้องอยู่ห่างกันทางกาย ไม่ได้หมายความว่าเราหมดโอกาสที่จะทำความรู้จัก และสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกว่าเดิมเสียหน่อย

8. อย่ายอมแพ้
  ถึงจะฟังดูซ้ำซากจำเจ แต่คำกล่าวนี้จริงเสมอ บอกตัวเองไว้ว่านอกจากคุณจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้แล้ว คุณยังสามารถพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น มันอาจจะยากมาก และอาจจะมีบางวันที่คุณเหนื่อยเต็มทน เพราะบรรยากาศในบ้านที่หมาเห่าไม่หยุด และลูกที่ร้องไห้แข่งกับเสียงหมาเห่า แน่นอนว่าคุณต้องอยู่กับบรรยากาศนี้ตลอดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หายใจเข้าลึกๆ ดึงสติตัวเองกลับมา เตือนตัวเองว่าคุณทำได้ดีแล้ว เรียนรู้ เติบโต และริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ต่อไป และอย่าลืมชมตัวเองบ้าง บอกตัวเองว่าคุณน่ะเป็นผู้ประกอบการที่สุดยอดแล้ว

ที่มา: https://www.forbes.com/sites/allbusiness/2020/05/23/fierce-entrepreneur-in-time-of-crisis/?ss=entrepreneurs#2d5aee847511
Created with