เปลี่ยนความคิดมาก ขี้กังวล ให้เป็นพลัง ด้วย 3 วิธีต่อไปนี้
In Summary
ชาวเราหลายคนอาจพยายามอย่างหนักเพื่อจะเลิกนิสัยนี้ ลองเสิร์ชคีย์เวิร์ด ‘คิดมาก กังวล ทำไงดี’ คุณจะเจอกระทู้ในอินเทอร์เน็ตร้อยแปดพันเก้าที่พยายามหาทางแก้ไข หลายคนคิดว่ามันคือนิสัยที่แย่มากๆ แต่รู้มั้ยว่าเราสามารถเปลี่ยนสิ่งนี้ให้กลายเป็นพลังได้ เพราะสมองเราคือสิ่งที่น่าพิศวงที่สุดในโลก ถ้ารู้จักเข้าใจและปรับความคิดได้ ทำไมเราจะเปลี่ยนเอาจุดอ่อนมาเป็นพลังใจให้เราไม่ได้ล่ะ
หากเรารู้เทคนิคดีๆ ก็จะสามารถเปลี่ยนนิสัยให้กลายเป็นพลังที่จะสร้างโอกาสมากมายในชีวิตได้ แทนที่จะบังคับตัวเองให้เลิกกังวล เลิกคิดมากทั้งๆ ที่เป็นไปไม่ได้ ลองมาเรียนรู้ที่จะจัดการและเปลี่ยนข้อเสียนี้ให้การเป็นอาวุธสุดเฉียบของเรากันเถอะ จะมีเทคนิคอะไรบ้างไปดูกัน
- เป็นคนคิดมาก ขี้กังวล อยากแก้ให้หาย ทำไงดี? หลายคนคงประสบกับปัญหานี้ และก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้แก้กันง่ายๆ ไม่งั้นคงไม่มีคนคิดมากจนต้องมาอ่านบทความนี้
- ลองเลิกพยายามแก้ไขทั้งๆ ที่เป็นไปไม่ได้ และเปลี่ยนความขี้กังวลให้เป็นพลังแทนดีมั้ย
- หัดสร้างขอบเขตให้ตัวเอง เข้าใจวิธีคิดของตัวเองว่าความกังวลนี้จากความรู้สึกแบบไหน และสร้างสมอเรือที่จะดึงเรากลับมาสู่ปัจจุบัน แล้วคุณจะรู้ว่าบางทีความครุ่นคิดนี้มีประโยชน์มากกว่าที่คิด
ชาวเราหลายคนอาจพยายามอย่างหนักเพื่อจะเลิกนิสัยนี้ ลองเสิร์ชคีย์เวิร์ด ‘คิดมาก กังวล ทำไงดี’ คุณจะเจอกระทู้ในอินเทอร์เน็ตร้อยแปดพันเก้าที่พยายามหาทางแก้ไข หลายคนคิดว่ามันคือนิสัยที่แย่มากๆ แต่รู้มั้ยว่าเราสามารถเปลี่ยนสิ่งนี้ให้กลายเป็นพลังได้ เพราะสมองเราคือสิ่งที่น่าพิศวงที่สุดในโลก ถ้ารู้จักเข้าใจและปรับความคิดได้ ทำไมเราจะเปลี่ยนเอาจุดอ่อนมาเป็นพลังใจให้เราไม่ได้ล่ะ
หากเรารู้เทคนิคดีๆ ก็จะสามารถเปลี่ยนนิสัยให้กลายเป็นพลังที่จะสร้างโอกาสมากมายในชีวิตได้ แทนที่จะบังคับตัวเองให้เลิกกังวล เลิกคิดมากทั้งๆ ที่เป็นไปไม่ได้ ลองมาเรียนรู้ที่จะจัดการและเปลี่ยนข้อเสียนี้ให้การเป็นอาวุธสุดเฉียบของเรากันเถอะ จะมีเทคนิคอะไรบ้างไปดูกัน
Photo from: Unsplash
1. สร้างขอบเขตให้ตัวเอง ลดความกังวล
อาการนี้ไม่ใช่เรื่องผิดตราบใดที่คุณรู้ตัวว่ามันกำลังเกิดขึ้นกับคุณอยู่ ไม่ต้องพยายามหยุดคิด แต่ควรพยายามปรับความคิดให้กับเข้ารูปเข้ารอย คิดให้เป็นระบบ อย่างไรก็ตามมันยังมีข้อดีอยู่บ้าง อย่างน้อยสามารถช่วยพัฒนาความคิดของคุณให้แตกแขนงไปได้ ถ้าคุณมีพื้นฐานการคิดและระบบความคิดที่ไม่สะเปะสะปะ
สร้างขอบเขตที่ชัดเจนให้ตัวเอง เมื่อไรก็ตามที่เริ่มคิดไปเกินขอบเขตนี้ ให้ดึงตัวเองกลับไปในทิศทางที่เป็นระบบ อาจลองใช้วิธีกำหนดหัวข้อที่จะคิด ตัดความเห็นของคนอื่นทิ้ง กำหนดเวลาและสถานที่ในการคิด และบอกตัวเองบ่อยๆ เมื่อเรื่องราวดูจะแย่ลงว่า “เรื่องนี้มันไม่ได้แย่ขนาดนี้ ฉันกำลังคิดมากอยู่”
ถ้าคุณควบคุมความคิดได้ นอกจากจะไม่สร้างผลเสียต่อตัวเอง หรือทำให้สถานการณ์แย่ลงแล้ว ยังช่วยให้ความคิดของคุณแตกแขนงและค้นพบไอเดียหรือวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ อีกมาก
2. มองวิธีคิดตัวเองให้ออก
ลองตอบตัวเองให้ได้ว่า เวลาที่เราตกอยู่ในภาวะครุ่นคิดสารพัด ความคิดนั้นเกิดมาจากพื้นฐานของความรู้สึกแบบไหน เช่นความกังวล ความรู้สึกขาดความอบอุ่น หรือคุณกำลังคิดจากความรู้สึกว่ามีพลังและกระตือรือร้น
สำหรับคนส่วนมาก แน่นอนว่าคำตอบมักจะเป็นตัวเลือกแรก ซึ่งพื้นฐานความรู้สึกนี้แหละจะเป็นตัวกำหนดว่าเรากำลังคิดมากเพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาตัวเอง หรือคิดมากแบบเสียเปล่าและไร้ประโยชน์
เวลาที่อาการนี้เกิดจากความกลัว เราจะยิ่งกลัวขึ้นเรื่อยๆ คิดไปไกลขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายอาจทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงด้วยมือเราเองได้ ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว ทุกครั้งที่ครุ่นคิดมากเกินไปให้ถามตัวเองว่าความคิดนี้เกิดจากความรู้สึกแบบไหน ดึงตัวเองกลับมาสู่ความจริง และพยายามเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองเพื่อเปลี่ยนพื้นฐานความคิดให้ได้ และคุณจะสามารถคิดไปในทางที่เป็นประโยชน์ขึ้นได้เอง
Photo from: Unsplash
3. ใช้ความรู้สึกดีๆ ดึงตัวเองกลับมาจากความขี้กังวล
ถึงแม้ว่าคุณจะตั้งขอบเขตให้ตัวเอง และพยายามเข้าใจวิธีคิดของตัวเองมากแค่ไหน เราเชื่อว่ามันก็จะยังคงมีบางเวลาที่คุณยังคงต้องการสมอเรือ หรือเชือกมาผูกรั้งความคิดตัวเองไม่ให้ลอยไปไกลจนเกินควร เพราะลำพังตัวคุณเอง ก็ควบคุมความคิดตัวเองไม่ไหวแล้ว
เวลาที่คุณกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านมา หรือคิดมากว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ลองใช้ปัจจุบันเป็นเชือกที่ดึงรั้งคุณกับมา เตือนตัวเองว่าชีวิตคุณ ณ วินาทีนี้ คือตอนนี้ คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ในนาทีนี้ อย่ามัวเสียเวลาไปกับชีวิตที่ย้อนกลับไปไม่ได้ในอดีต และชีวิตยังไม่สามารถใช้ได้ในอนาคต
สร้างสมอเรือขึ้นมาหนึ่งอันที่คุณจะนำมาใช้ทุกครั้งที่เริ่มจะคิดมากจนหงุดหงิด สมอที่ได้ผลที่สุดคือความรู้สึกดีๆ เช่นความรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้ง บอกตัวเองว่า “ฉันรู้สึกขอบคุณกับสิ่งที่ฉันเป็นอยู่มาก แม้จะกำลังคิดมากอยู่ แต่การคิดมากนี้ก็อาจนำไปสู่สิ่งดีๆ ได้” หลังจากนั้นย้อนกลับไปหาต้นตอของความคิดมากนี้ เอา 2 วิธีด้านบนเข้ามาช่วย สร้างลิมิตในการคิด และเปลี่ยนระบบความคิดให้คิดอย่างมีประโยชน์ เริ่มใหม่จากต้นตอที่คุณหาเจอนั่นแหละ แล้วคุณจะแก้ปัญหาทุกอย่างได้
เวลาที่เรามีความสุข มีพลัง มีความกระตือรือร้น นั่นคือเวลาที่ไอเดียดีๆ มากมายจะพรั่งพรูออกมา รู้อย่างนี้แล้วจะเสียเวลากับความคิดมากแบบลบๆ ไปทำไม ในเมื่อคุณเปลี่ยนความคิดตัวเองให้มีประโยชน์ได้ คิดมากในทางที่มีพลัง มีความสุขและกระตือรือร้น มั่นใจได้เลยว่าเรื่องดีๆ จะตามมามากมาย
หายใจเข้าลึกๆ สร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง ผ่อนคลาย และเรียกพลังออกมาจากความคิดมากของเรากัน
เสริมพลังการคิดบวก อ่านต่อ คลิก
Source
อัปเดตคอร์สใหม่และส่วนลดคอร์สต่างๆ
Thank you!
Policy Pages
Copyright © 2022
รับสิทธิพิเศษก่อนใคร แอดไลน์ @shiftyourfuture