7 เหตุผลที่องค์กรควรเปลี่ยนไปจัด Virtual Event

In Summary

  • การสื่อสาร การช้อปปิ้ง สื่อบันเทิงหรือแม้แต่การทำงานก็เปลี่ยนตัวเองเข้ามาอยู่บนโลกออนไลน์ตามกระแสโลกดิจิทัลหมด รวมถึงการจัดอีเวนต์ที่ดูเหมือนจะทิ้งความเป็นออฟไลน์ได้ยาก แต่ก็ทำได้ในที่สุด
  • เทรนด์ใหม่มาแรงตามเกิดขึ้นมามากมาย และเป็นเทรนด์ที่การจัดอีเวนต์ออนไลน์ตอบโจทย์มาก ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์โลกาภิวัฒน์ เทรนด์รักษ์โลก เทรนด์การทำงานทางไกล เทรนด์ไลฟ์สด เทรนด์ AR และ VR
  • องค์กรควรเริ่มพิจารณาการเปลี่ยนรูปแบบงานอีเวนต์ให้เป็นการจัดเสมือนจริงทางออนไลน์ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ การไลฟ์สด (Live Streaming) กำลังมาแรง ลดต้นทุนได้มาก ได้กลุ่มผู้ชมที่ใหญ่ขึ้นและเพิ่มการมองเห็น (Visibility) ได้มากขึ้น เก็บข้อมูลง่ายขึ้น ดำเนินแนวทางอีเวนต์ที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลได้ง่าย (Personalized Event) สร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมที่น่าประทับใจได้เต็มที่ และมีระบบพร้อมรองรับ

โลกเปลี่ยนแปลงไปมากมาย การสื่อสาร การช้อปปิ้ง การเรียนรู้ หาข้อมูล หรือเสพสื่อบันเทิง ต่างย้ายตัวไปอยู่บนโลกออนไลน์ทั้งหมด โลกการทำงานก็เป็นอีกสิ่งที่หนีการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ ชีวิตเราตอนนี้จึงสามารถทำทุกอย่างไม่ว่าจะงานหรือบันเทิงได้ด้วยสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์แค่เครื่องเดียว

องค์กรต่างเริ่มปรับตัวตามโลกดิจิทัล พยายามคิดค้นกลยุทธ์ทางนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้ตนเองก้าวทันเทรนด์โลกและทันพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน พนักงานก็ทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์มออนไลน์ การตลาดก็เน้นกลยุทธ์ทางออนไลน์เป็นหลัก หรือแม้แต่อีเวนต์ที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ปรับตัวเป็นออนไลน์ได้ยาก ก็ยังต้องหันมาทบทวนตัวเองว่าการจัดงานแบบออฟไลน์ยังมีประโยชน์และเข้ากับยุคสมัยจริงๆ ไหม

ประกอบกับการเกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่งทำให้การจัดอีเวนต์เสมือนจริง (Virtual Event) ทางออนไลน์เป็นเทรนด์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าต่างเสริมให้การจัดอีเวนต์เสมือนจริงทำได้อย่างง่ายดาย และให้ประสบการณ์ที่เสมือนจริง มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้เข้าร่วมกับผู้จัด ต่างแค่ไม่ได้ไปนั่งข้างๆ กันจริงๆ เท่านั้น

เทรนด์ทุกวันนี้ก็ต่างส่งเสริมให้องค์กรต้องพิจารณาการจัดอีเวนต์ออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์การเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ที่โลกทั้งโลกเชื่อมต่อกันได้แค่ปลายนิ้วคลิก ทำให้การจัดอีเวนต์ออนไลน์จุคนร้อยคนไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

เทรนด์ของการรักษ์โลก ที่ทำให้การจัดอีเวนต์ออนไลน์ได้รับความนิยมมากกว่าการจัดอีเวนต์แบบดั้งเดิม เพราะว่าไม่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ไฟฟ้า สถานที่ที่ต้องใช้ในการจัดอีเวนต์

เทรนด์การทำงานทางไกล
ที่ทำให้คนเรานั่งทำงานอยู่บ้าน และติดต่อกับบริษัทอีกฟากโลกได้เสมือนนั่งด้วยกันในสำนักงาน

เทรนด์การไลฟ์สด
ที่พาเราสัมผัสประสบการณ์ร่วมกับคนที่อยู่คนละที่ได้แบบเรียลไทม์

และเทรนด์ AR และ VR  จำลองภาพเสมือนจริง และสิ่งแวดล้อมที่โต้ตอบได้ เหมือนเราเข้าไปอยู่ที่นั่นจริงๆ

สำหรับใครที่กำลังลังเลเกี่ยวกับการจัดอีเวนต์ออนไลน์ ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเทรนด์ที่เหมาะสมจริงมั้ย วันนี้เรานำ 7 เหตุผลและ 5 เทรนด์ธุรกิจที่ทำให้อีเวนต์เสมือนจริงเป็นสิ่งที่ควรจะทำอย่างมากตั้งแต่ตอนนี้มาฝากกัน
การไลฟ์สด (Live Streaming) กำลังมาแรง
งานวิจัยวัดพฤติกรรมในการใช้โซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งาน Facebook แสดงความคิดเห็นและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นกว่า 10 เท่า เมื่อใช้แพลตฟอร์มการไลฟ์สด และ 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ชอบดูวิดีโอที่ถ่ายทอดแบบเรียลไทม์มากกว่าการอ่านบล็อคหรือโพสต์ทั่วไป ข้อมูลเหล่านี้ชี้ชัดว่าการจัดอีเวนต์เสมือนจริง หรือจัดงานสัมนาด้วยการไลฟ์สดเป็นเทรนด์ที่บริษัทต้องจับตามอง

ลดต้นทุนได้มาก
เศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย การลดต้นทุนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างที่องค์กรต้องคำนึงถึง และการจัดอีเวนต์เสมือนจริงออนไลน์ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดต้นทุนได้เยอะมาก องค์กรไม่จำเป็นต้องเสียค่าเช่าสถานที่ ค่าอุปกรณ์ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร และต้นทุนอีกมากที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดอีเวนต์ออฟไลน์แบบเดิมๆ

ได้กลุ่มผู้ชมที่ใหญ่ขึ้นและเพิ่มการมองเห็น (Visibility) ได้มากขึ้น
ปัจจัยทางภูมิศาสตร์และเวลาที่แตกต่างกันคืออุปสรรคหลักในการจัดอีเวนต์ ดังนั้นการจัดอีเวนต์เสมือนจริงเปิดโอกาสให้ผู้ชมเข้าร่วมอีเวนต์แบบทางไกลจากที่ไหนก็ได้ขอแค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว  นอกจากนี้อีเวนต์เสมือนจริงยังเข้าถึงผู้ชมออนไลน์ได้มากกว่า ทำให้คนมองเห็นโฆษณามากขึ้นโดยที่เสียเงินทุนน้อย
เก็บข้อมูลง่ายขึ้น
การเข้าร่วมอีเวนต์ออนไลน์ทำให้การวัดผลหลังจากอีเวนต์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเราสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้เข้าร่วมแบบเรียลไทม์ได้ ทำให้เราสามารถวัด Returen of Investmesnt (ROI) ได้แม่นยำ นอกจากนี้เรายังสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปพัฒนาต่อได้อีกด้วย

ดำเนินแนวทางอีเวนต์ที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลได้ง่าย (Personalized event)
นับวันคนยิ่งต้องการสิ่งเฉพาะตัวมากขึ้น ยิ่งการแข่งขันกันในโลกดิจิทัลนั้น บริษัทต้องคำนึงถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เข้าร่วม อีเวนต์จะเป้นการจัดแบบกว้างๆ เพื่อจุดประสงค์เดียวไม่ได้แล้ว

องค์กรสามารถสร้างอีเวนต์แบบที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลได้ง่ายขึ้นมากด้วยการกำหนดเนื้อหาที่ผู้เข้าร่วมต้องการ และให้พื้นที่ผู้เข้าร่วมได้มีปฏิสัมพันธ์ โดยใช้ประโยชน์จากการแชทแบบโต้ตอบ ทำให้ผู้เข้าร่วมจะสามารถโต้ตอบกับผู้จัดแบบเรียลไทม์ โดยผู้จัดสามารถตอบคำถาม ให้รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม และทำให้อีเวนต์นั้นตอบโจทย์แบบเฉพาะบุคคลได้มากขึ้น

สร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมที่น่าประทับใจได้เต็มที่
สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการจัดอีเวนต์ออนไลน์คือการดึงความสนใจของผู้เข้าร่วมไว้ให้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบงาน โดยทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกมีส่วนร่วมที่สุด แต่ปัจจุบันนี้การมีส่วนร่วมไม่จำเป็นต้องทำโดยการนั่งข้างกันหรือล้อมวงทำกิจกรรมอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีในโลกออนไลน์ก็ทำให้เรารู้สึกมีส่วนร่วมได้ และเป็นแนวทางที่อาจนิยมมากกว่าการไปนั่งในอีเวนต์ออฟไลน์อีกด้วย

หนึ่งเครื่องมือที่ตอบโจทย์นี้ได้คือการสร้างอวาตาร์แบบ 3 มิติ ซึ่งเปิดโอกาสให้คนได้สร้างตัวละครเสมือนจริงที่หน้าตาคล้ายตัวเอง และเข้าร่วมอีเวนต์ด้วยอวาตาร์ วิธีนี้เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มชีวิตชีวาให้อีเวนต์แบบออนไลน์ อวาตาร์เหล่านี้ยังทำอะไรได้มากกว่าที่คิด สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อในโลกออนไลน์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด สามารถใส่เสียงของเรา ทำให้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้เหมือนเราไปนั่งอยู่ในนั้นจริงๆ
มีระบบพร้อมรองรับ
ยิ่งจำนวนบริษัทที่ลงทุนกับอีเวนต์เสมือนจริงแบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น คนก็ยิ่งพัฒนาเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันสุดสร้างสรรค์ที่พัฒนามาเพื่อสนับสนุนการจัดอีเวนต์ออนไลน์โดยเฉพาะ เช่น แอปพลิเคชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการวิดีโอคอล และแชทแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำให้การประชุมออนไลน์ คลาสเรียนธุรกิจเสมือนจริง กิจกรรมของทีม หรือการประชุมแบบทางไกลทำได้ง่ายมากขึ้นเยอะ อาทิ Zoom Goolgle Meet เป็นต้น

งานอีเวนต์เสมือนจริงแบบออนไลน์ก้าวข้ามข้อจำกัดมากมายที่งานอีเวนต์แบบออฟไลน์เคยต้องประสบ คนร้อยคนสามารถประชุมพร้อมกันโดยไม่ต้องใช้ห้องประชุมขนาดใหญ่อีกต่อไป และยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้แทบจะเหมือนปกติ หรือนี่คือเทรนด์ใหม่ที่จะเปลี่ยนโลกไปตลอดกาล?

Source


Created with