ทำไม! การตลาดนอกตำราอย่าง Makoto Marketing ถึงประสบความสำเร็จ

Makoto Marketing เป็นศาสตร์การตลาดที่ได้รับผลตอบรับดีในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เพราะมีเนื้อหาแตกต่างจากศาสตร์การตลาดทั่วไป หรือวิธีการสื่อสารที่พบในปัจจุบันจะเห็นว่ายัดเยียดขายสินค้ามากจนเกินไป ซึ่งในกาตลาดแบบ Makoto จะเน้นสื่อสารในเรื่อง “การตลาดที่จริงใจ มาจากใจ” ถ่ายทอดเรื่องราวธุรกิจญี่ปุ่น 20 เรื่อง ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้

ในบทความนี้ SHiFT Your Future จะมาช่วยหาคำตอบว่า ทำไม ศาสตร์การตลาดแบบ Makoto ที่ไม่ได้สอนการตลาดเชิงวิชาการของ ผศ.ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ หรือ อาจารย์เกด มีจุดเด่นอะไรบ้าง ถึงมีคนสนใจเป็นจำนวนมาก

 
สอนการตลาดแบบใส่ใจ
ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Makoto Marketing มีความแตกต่างจากการตลาดทั่วไปชัดเจน คือ การตลาดทั่วไปมักจะคิดว่าทำอย่างไรให้ลูกค้าซื้อ เช่นแบรนด์น้ำดื่ม ก็จะคิดรสชาติใหม่ๆ หรือนำเทรนด์ของรสชาติมาผสมกับผลิตภัณฑ์ตัวเอง รวมถึงทำโปรโมชั่นแต่ การตลาดแบบ Makoto จะบอกเล่าอย่างแตกต่างออกไป คือ การทำให้คนเห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์ ถ่ายทอดเสน่ห์ของผลิตภัณฑ์ ใส่ใจกับทุกขั้นตอนของการผลิตจนถึงการขายสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคมีความสุขมากที่สุด
ผศ.ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ หรือ อาจารย์เกด

ความจริงใจ คือ Brand loyalty
การสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงกับโฆษณาจำนวนมาก แต่ใช้ความจริงใจ ใส่ใจ เป็นกันเอง กับลูกค้าในทุกๆ ขั้นตอน เพราะคนจะยอมจ่ายให้กับสินค้าและบริการ ที่ใช้แล้วสบายใจ ถึงแม้จะมีราคาสูงกว่าคู่แข่งก็ตาม เพราะฉะนั้นการตลาดแบบ Makoto จะเติบโตแตกต่างกับการตลาดทั่วไป คือ มองจุดเริ่มการเริ่มต้นธุรกิจด้วยการแก้ปัญหา ตรวจสอบสินค้าที่ขายหรือบริการว่าดีอยู่แล้วหรือไม่ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้ความใส่ใจเข้ามาแก้ปัญหา และเข้าใจลูกค้าให้มากกว่าที่ลูกค้าเข้าใจตัวเอง ไม่ใช่การตลาดแบบหวังรวย หรือสร้างยอดขายมากๆ เพราะ ความยั่งยืน สำคัญกว่าการทำตลาดแบบฉาบฉวย ซึ่ง อาจารย์เกด เองก็ได้กล่าวไว้ว่า ทำสินค้าหรือบริการให้คน 1 คนซื้อ 100 ครั้ง ดีกว่าให้คน 100 คนมาซื้อครั้งเดียว

ธุรกิจต้องเป็นตัวของตัวเอง
การตลาดแบบ Makoto ชี้ให้เห็นว่า ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านการตลาด จะต้องมีความเป็นตัวเอง หันกลับมามองตนเองมากกว่าเดินตามคนอื่น ถึงแม้ว่าธุรกิจจะขายสินค้าเหมือนกับคู่แข่ง ธุรกิจต้องมีจุดขาย จุดเด่น ที่แตกต่างกับคู่แข่ง โดยใช้ความใส่ใจต่อลูกค้าเป็นตัวตั้ง ไม่สอนการยิงโฆษณา เพื่อหวังผลยอดขาย หรือการทำตามคนอื่น เมื่อเห็นว่าเขาทำได้ดี

สตอรี่ดี ก็ดังเอง
Makoto Marketing  จะไม่สอนการยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย แต่จะสอนการทำสินค้าให้สื่ออยากมาสัมภาษณ์ คือ สินค้าต้องมีสตอรี่ สร้างความแตกต่าง ไม่เหมือนใคร รวมถึงสร้างคุณค่าใหม่กับผู้ใช้ ก็จำทำให้เกิดการบอกต่อจนสื่อเข้ามาสนใจ ซึ่งในหนังสือได้เห็นถึงธุรกิจที่ยอดขายตกอย่างมาก แต่สามารถปรับตัว สร้างบริการใหม่ๆ สร้างสตอรี่ของสินค้า โดยใช้ความรู้ที่อยู่กับธุรกิจมานาน และความใส่ใจ จนกลับมาขายดีได้

ได้มากกว่าแรงบันดาลใจ
การตลาดแบบ Makoto นำเสนอตั้งแต่ ทฤษฎี เคส บทสรุป และแบบฝึกหัด ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ที่ศึกษาการตลาดได้เรียนรู้ คิดตาม ทดลองลงมือทำจริง

เหมาะกับทุกคน
การตลาดแบบ Makoto เป็นตำราที่ใช้ได้กับทุกคน ตั้งแต่ พ่อค้าแม่ค้า SMEs Startup นักการตลาด ไปจนถึง ผู้บริหาร

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

6 ไอเดียงานเสริมยุคโควิด เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ในช่วง WFH
Created with