5 วิธี รับมือกับความกลัวการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม หลังเกิดโรคระบาด

ในขณะที่คนส่วนหนึ่งมีความสุขที่สามารถกลับมาทำกิจกรรมบางอย่างได้อีกครั้ง แต่บางคนกลับเต็มไปด้วยความกลัวเมื่อต้องกลับไปสู่ชีวิตก่อนเกิดโรคระบาด ซึ่งการที่คุณกังวลไม่ใช่เรื่องแปลกและอย่ารู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว แต่สิ่งสำคัญที่คุณควรทำ คือ ต้องสังเกตตัวเองเมื่อรู้สึกกังวล เพราะเพียงแค่รับรู้ความรู้สึกวิตกกังวลของคุณอาจช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น

ในบทความนี้ SHiFT Your Future จะมาแนะนำวิธีการดูแลตัวเองและจัดการกับความกลัวอย่างมีสุขภาพดีในช่วงที่คนต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบ New Normal กัน

 
1.วินิจฉัยความกลัวของคุณ

มีหลายสาเหตุที่ทำให้ผู้คนกลัวการกลับไปมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมตามปกติ แม้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีความกลัวที่จะป่วย บางคนกลัวว่าผู้เป็นที่รักเช่น ญาติผู้ใหญ่ที่บ้าน จะป่วย หรือเสียชีวิต

แต่ความปลอดภัยจากโรคระบาดไม่ใช่สิ่งเดียวที่คนกังวลในตอนนี้ บางทีคุณอาจรู้สึก "ท้องไส้ปั่นป่วน" เมื่อคิดถึงการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอีกครั้งในที่สาธารณะ บางคนสนุกกับวิถีชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบและเงียบกว่า เมื่อคิดถึงความยุ่งวุ่นวายกับชีวิตอีกครั้งก็ไปกระตุ้นความวิตกกังวล บางคนอาจสนุกกับการทำงานจากที่บ้านและอยู่กับครอบครัว และรู้สึกกังวลเมื่อต้องกลับไปทำงานที่บริษัท

ไม่ว่าความกลัวของคุณคืออะไร การระบุตัวตนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ใช้เวลาเล็กน้อยคิดว่าเหตุใดคุณจึงกลัว ลองค้นหาสิ่งที่คุณกลัวเพื่อพัฒนาแผนการรักษา

 
2.ปรับความคิดเชิงลบใหม่

ยิ่งคุณใช้เวลาอยู่กับความเศร้าโศกที่อาจเกิดขึ้นมากเท่าใด จะยิ่งรู้สึกแย่ลงเท่านั้น การปรับความคิดเชิงลบใหม่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ลองปรับตัวเองให้นึกถึงสิ่งดีๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น จะได้นัดเจอกับเพื่อนๆ ที่คุณรัก หรือธุรกิจจะสามารถทำเงินได้มากขึ้นเมื่อได้เปิดร้านเป็นปกติ

 
3.โฟกัสในสิ่งที่ควบคุมได้

การคิดถึงสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ จะกระตุ้นความวิตกกังวลให้เพิ่มขึ้น บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกว่าไม่มีทางเลือก เช่น เจ้านายเรียกกลับเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ ถ้าปฏิเสธการกลับไปทำงานก็อาจจะมีปัญหา

ดังนั้น การจดจ่ออยู่กับสิ่งที่คุณควบคุมได้จึงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า ตัวอย่างการโฟกัสในสิ่งที่ควบคุมได้ เช่น การได้กินของอร่อย การได้ออกกำลังกาย ได้เดินช้อปปิ้ง ก็อาจจะช่วยให้คุณจัดการกับความวิตกกังวลได้ดีขึ้นเล็กน้อย

 
4.หาวิธีจัดการอารมณ์ให้สุขภาพจิตดี

เมื่อมีความวิตกกังวลมาก ให้ลองหาวิธีจัดการกับอารมณ์ของคุณให้ดีที่สุด เพราะมีหลายสิ่งที่เราทำแล้วรู้สึกดีขึ้น แต่กับคนอื่นอาจจะไม่ใช่

การออกไปเดินเล่น การโทรหาเพื่อน อ่านหนังสือ อาจได้ผลสำหรับบางคน แต่กับคนอื่น อาจจะต้องใช้การเล่นเกม หรือดูซีรีส์ เข้ามาช่วยคลายความวิตกกังวล

สิ่งสำคัญ คือ ต้องลองทำหลายๆ กิจกรรม เพื่อเรียนรู้ว่าอะไรเหมาะกับคุณ และตัดสินใจเลือกทำสิ่งที่ดีที่สุดกับสภาพจิตใจ

 
5.ลดการเสพสื่อที่ทำให้เกิดความกังวล

การอ่านหรือรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์โรคระบาด จะเพิ่มความเครียดและกระตุ้นความวิตกกังวลได้

แม้ว่าการรับทราบข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณควรตรวจสอบปริมาณสื่อที่คุณบริโภคในแต่ละวันว่ามากเกินไปหรือไม่ ถ้ามากไปให้ลองลดปริมาณการรับสื่อให้น้อยลง อาจจะเหลือแค่วันละ 1-2 ครั้งต่อวัน ก็สามารถช่วยให้จิตใจของคุณได้พักผ่อนจากข่าวและคลายความกังวลได้

 
ใช้เทคโนโลยี และความรู้ ช่วยแก้ปัญหา

จากการแก้ปัญหาใน 5 ข้อข้างต้นนั้น เป็นเพียงข้อแนะนำในการปรับตัว แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นมันได้ผลจริงๆ หรือไม่ ถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างสมาร์ทวอทช์ หรือใช้แอปพลิเคชันอย่าง Mental Health Check up มาเพื่อติดตามความเครียด ก็จะช่วยให้เรารู้ว่าตัวเองนั้น ปัจจุบันมีความเครียดอยู่ในระดับใด เพิ่มขึ้นหรือลดลงหลังจากการทำกิจกรรมใด และทำให้เรารู้วิธีแก้ไขที่ถุกต้อง มีความสบายใจมากขึ้น ลดความกังวลได้มากขึ้น

อีกส่วนคือ การศึกษาหาความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็จะให้เราสามารถใช้ชีวิตในโลกปกติใหม่ได้อย่างปลอดภัยและไร้ความกังวล
 

สุดท้ายนี้ SHiFT Your Future ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังประสบกับปัญหาความกังวล ให้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้ และกลับมาใช้ชีวิตแบบ New Normal ได้อีกครั้ง

ที่มา verywellmind.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

-เปิดแนวคิด “ดร.เพิ่มสิทธิ์ นำประสิทธิผล” เมื่อชีวิตไม่ได้มีแค่ Work กับ Life จะออกแบบอย่างไรให้มีความสุข
-6 ขั้นตอนออกแบบชีวิตการทำงาน ให้พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน
Created with