“ครูออน” ญาณิมา ศรีมังคละ เทรนเนอร์ผู้ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง

เทรนเนอร์ส่วนมากมักจะมีเทคนิคและสไตล์การสอนเฉพาะตัว สำหรับ ครูออน-ญาณิมา ศรีมังคละ เทรนเนอร์การขายเชิงที่ปรึกษา นั้น เทคนิคค่อนข้างจะเรียบง่าย แต่คนส่วนมากทำไม่ได้ เช่นการถามว่า “เป้าหมายของแต่ละคน ในอีก 5 ปีข้างหน้า คืออะไร เห็นตัวเองเป็นแบบไหน และให้บรรยายมาให้ละเอียด” จากนั้นจะถามว่า “สิ่งที่ทำอยู่จะทำให้เรารู้สึกเข้าใกล้เป้าหมายได้หรือไม่”

“นักเรียนส่วนมากมักจะมีเป้าหมายใหญ่โต แต่สิ่งที่ลงมือทำเล็กนิดเดียว หรือบางคนทำสิ่งที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายและไปคนละทางกับเป้าหมาย” ครูออน เปิดคำสัมภาษณ์กับ SHiFT Your Future

การที่ ครูออน ได้สอนนักเรียนมาหลายรุ่น และส่วนมากเป็นนักขาย จึงเริ่มคิดว่าจะพัฒนาผู้เรียนอย่างไรให้มีศักยภาพรอบด้าน มากกว่าการเรียนเรื่องการนำเสนอ การให้บริการ และบุคลิกภาพ

จนวันหนึ่งได้ไปเรียนเรื่อง Consultative selling ทำให้เข้าใจว่า การขายนั้นไม่ใช่เรื่องความสามารถเฉพาะตัวเป็นหลัก แต่มันมี Keyword บางอย่างเป็นหัวใจของการขายลักษณะนี้ เป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนได้ จึงนำสิ่งที่ได้เรียนมาสอนต่อกับผู้เรียน เป็นส่วนหนึ่งของวิชาที่สอน
Consultative Selling ช่วยเติมเต็มศักยภาพคน
หลายธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วยพนักงานฝ่ายขาย ทำให้นักขายส่วนมากจะต้องสู้กับแรงกดดันของตัวเอง เพราะมีเป้าหมายคือการสร้างยอดขาย แต่เมื่อคิดถึงยอดขายเป็นสิ่งแรก ก็จะละเลยสิ่งอื่นที่สำคัญ สิ่งที่จะทำให้สำเร็จ ซึ่งก็คือลูกค้า คนที่จ่ายเงินซื้อสินค้าเพื่อให้เป้าหมายสำเร็จ

“เวลาเราไปช้อปปิ้ง บางทีก็สงสัยว่าทำไมกับคนขายบางคนเรารู้สึกสบายใจที่จะซื้อของกับคนนี้ อยากจะกลับไปซื้ออีก อยากจะแนะนำเพื่อนให้มาซื้อผ่านคนนี้ แต่กับบางคนก็จะรู้สึกอึดอัดและไม่อยากกลับไปซื้อของด้วยอีก ถึงแม้ว่าจะเป็นสินค้าแบบเดียวกัน”

ครูออน อธิบายเพิ่มเติมว่า เพราะ Mindset ของคนทั่วไปจะรู้สึกว่าอยากได้รับมากกว่าให้ เช่นเดียวกัน นักขายทั่วไปจะอยากได้เงินจากลูกค้ามากกว่าจะให้อะไรดีๆ กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าจะสัมผัสได้ และรู้สึกอึดอัดใจเมื่อต้องคุยกับนักขาย

เพราะฉะนั้นการนำวิชา Consultative selling เข้ามาสอนเพิ่มเติมจากหลักสูตรการนำเสนอ การให้บริการ และบุคลิกภาพ จะช่วยให้นักขายเข้าใจลูกค้ามากขึ้น

หนึ่งในตัวอย่างของนักเรียนที่เป็นนักขายในโครงการบ้านหรู นำสิ่งที่เรียนไปใช้ได้จริง จนเปลี่ยนชีวิตการเป็นนักขาย ครูออน เล่าให้ฟังว่า “ก่อนจะมาเรียนนักขายคนนี้รู้สึกไม่มั่นใจที่จะต้องเข้าหาลูกค้า ไม่รู้จะต้องทำอย่างไร เพราะการเข้าหาคนที่มีฐานะการเงินสูงกว่า หน้าที่การงานดีกว่า ทำให้เขารู้สึกตัวเล็กนิดเดียว ทำอะไรไม่ถูก

แต่หลังจากที่ได้เข้ามาเรียนก็ทำให้ทัศนคติการขายของเขาเปลี่ยนไป จากที่คิดว่าจะต้องขายให้ได้ เป็นคิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งทำให้คลายความกดดัน และการพูดคุยกับลูกค้าเป็นธรรมชาติมากขึ้น สามารถคุยเรื่องอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการขายได้ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น ทำให้ขายได้ในที่สุด และลูกค้ายังแนะนำเพื่อนให้มาติดต่อผ่านนักขายคนนี้อีก”
เป้าหมาย คือ การพัฒนาตัวเอง เพื่อส่งต่อความรู้
ครูออน มีความเชื่อส่วนตัวว่า ทุกการเรียนรู้ไม่เคยทำให้ใครถอยหลัง มีแต่ทำให้เดินหน้า เพียงแต่ว่าแต่ละคนจะนำความรู้ไปใช้และก้าวได้สั้นหรือยาวต่างกัน ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะสอนในหลากหลายวิชา และได้สอนนักเรียนไปหลายรุ่นแล้ว แต่ ครูออน ตั้งเป้าจะเรียนรู้ให้ลึกมากกว่าเดิม ทั้งการเป็น Coaching และ Facilitator (วิทยากร) เพื่อจะนำมาถ่ายทอดให้ผู้เรียนได้ผลลัพธ์อย่างยั่งยืนมากขึ้น

“เมื่อพูดถึงวิทยากรคนมักจะเข้าใจว่าเป็นการบรรยาย แต่สิ่งที่เราทำมาตลอดคือการเป็นเทรนเนอร์ เป็นการถ่ายทอดข้อมูล ให้ความรู้ผ่านกิจกรรม หรือคำถาม ซึ่งจะทำให้เกิดการเข้าใจและจดจำ นำไปลงมือทำมากกว่าการนั่งฟังเฉยๆ”

การที่มีความรู้ด้าน Coaching มากขึ้น จะทำให้สามารถสร้างคำถามที่ทรงพลังมากขึ้น แล้วทำให้ผู้เรียนกลับเข้ามามองย้อนดูตัวเอง จนได้คำตอบเฉพาะตัวของแต่ละคน และสามารถนำไปใช้ได้อย่างยั่งยืน

ส่วน facilitator จะช่วยให้สามารถเป็นผู้นำที่ลดความขัดแย้งได้ดี ช่วยทลายกำแพงความห่างระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน และช่วยสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้เรียนรู้สึกว่าสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ มีส่วนร่วมกับการเรียนได้อย่างเต็มที่

“ถ้าสามารถนำความรู้ที่ลึกมากขึ้นมาใช้ในคลาสเรียนได้ การสอนของเราก็จะมีมิติมากขึ้น ผู้เรียนจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และก้าวไปข้างหน้าได้ ซึ่งถือเป็นความภูมิใจในฐานะคนสอน” ครูออน-ญาณิมา ศรีมังคละ กล่าวปิดท้าย

บทสัมภาษณ์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

-ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย ผู้พัฒนา Botnoi กับพันธกิจสร้างเครือข่ายนักพัฒนา AI
-เจมส์ – ธีรานนท์ กับภารกิจส่งต่อความรู้ Digital Marketing ให้เข้าใจง่าย
Created with